รองเลขาฯ ปชป.มั่นใจคนกรุงฯหนุน “ดร.เอ้” เป็นผู้ว่าฯ กทม.
รองเลขาฯ ปชป.ยังมั่นใจ คนกรุงเทพฯหนุน “ดร.เอ้ สุชัชวีร์” นั่งเก้าอี้ “ผู้ว่าฯ กทม.” เชื่อภาพลักษณ์พรรค ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคน กทม.มายาวนาน ช่วยให้ได้รับความไว้วางใจ
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2565 นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่ผลการสำรวจของสำนักโพลล์ต่าง ๆ ที่ระบุว่า ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พรรคประชาธิปัตย์ ตามหลังว่าที่ผู้สมัครฯ รายอื่นๆ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นวิจารณญาณของประชาชนที่แสดงความคิดเห็นผ่านโพลล์ แต่อย่างไรก็ตาม ศ.ดร.สุชัชวีร์ และทีมงานว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ของพรรค ก็ยังเดินหน้าทำงาน พร้อมกับผลักดันนโยบายในด้านต่าง ๆ ให้กับชาวกรุงเทพมหานครในทุกมิติ เช่น ในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้มีแนวคิดนโยบาย “เงินเต็มบ้าน งานเต็มมือ” ด้วยการจัดทำกองทุนเพื่อการจ้างงาน สร้างรายได้ในชุมชน ลดอัตราการว่างงาน 50 สัปดาห์ 50 เทศกาลเขต เป็นแนวนโยบายเพื่อเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นได้โชว์ของดีประจำเขต ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศเข้ามาเยี่ยมชม เพื่อเป็นการสร้างรายและประกาศถึงความภูมิใจในอัตลักษณ์ของผู้คนในแต่ละเขต การคืนวันจันทร์ให้กับพ่อค้าแม่ขาย เพื่อสร้างผลประโยชน์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและช่วยกันรักษาความสะอาดบนทางเท้า เป็นวงจรสามเหลี่ยมระหว่าง ประชาชน เจ้าหน้าเทศกิจ และพ่อค้าแม่ขาย การเพิ่มเงินดูแลเด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจาก 20 บาท เป็น 40 บาท นโยบายเชื่อมทางจักรยานลอยฟ้าเข้าสู่ชุมชน เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทาง และเป็นการแก้ไขปัญหาพลังงานที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และยังมีนโยบายอีกมากมายที่จะผลักดันเพื่อจะเปลี่ยนกรุงเทพ ให้ดีกว่าเดิม ซึ่งถือได้ว่าในเรื่องของนโยบายของพรรคฯ มีความเหมาะสมและมีความเป็นไปได้ในการปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง
นายชัยชนะ กล่าวด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันความพร้อมในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ที่คาดว่ามีขึ้นในช่วงเดือน พ.ค.นี้ ทั้งตัวว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่มีความรู้ความสามารถ มีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ มาตลอด 30 ปี มีแนวนโยบายที่ชัดเจน และเป็นบุคคลที่พร้อมให้มีการตรวจสอบในเรื่องราวต่างๆ ที่มีการตั้งข้อสงสัย และตัวผู้สมัคร ส.ก.ที่มีครบ 50 คน 50 เขต ซึ่งแต่ละคนก็มีความหลากหลาย เช่น อดีต ส.ก. ที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีของชาวบ้านในพื้นที่ นักการเมืองที่มีบทบาทในระดับชาติ ทายาทนักการเมืองที่ทำงานในพื้นที่อยู่เสมอ รวมทั้งคนรุ่นใหม่ที่ก้าวเข้ามาในพรรคที่ต้องเปลี่ยนแปลงพื้นที่กรุงเทพฯ ร่วมกับศ.ดร.สุชัชวีร์ และพรรคประชาธิปัตย์
“เชื่อว่า หากชาวกรุงเทพฯ เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะได้ศ.ดร.สุชัชวีร์ และทีมงาน ส.ก. ของพรรค มาทำงานรับใช้คนกรุงเทพฯ ตามที่ได้ประกาศตัวมาอย่างชัดเจน แต่ถ้าหากเลือกผู้สมัครรายอื่นๆ ที่ประกาศตัวเองเป็นอิสระ แต่ชาวบ้านทั่วไปเห็นว่า ที่ต้องเป็นอิสระเพราะไม่ต้องการให้พรรคมาเป็นตัวฉุดคะแนนนิยมของตัวเองแล้ว ก็จะเกิดความลักลั่นในการตัดสินใจของคนกรุงเทพฯ ดังนั้นทางพรรคฯจึงได้ชูแนวทางที่แสดงถึงความชัดเจนและความตั้งใจ รวมทั้ง ชูภาพลักษณ์เพื่อตอกย้ำให้คนกรุงเทพฯ เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขและร่วมพัฒนาไปกับคนกรุงเทพฯ มาอย่างยาวนานอีกด้วย” นายชัยชนะ กล่าว