ไม่หวั่นผลโพลเป็นรอง "ดร.เอ้" ลุยต่อ พร้อมเปิดนโยบายหลังลงพื้นที่ครบ 50 เขต

เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2565 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการความพร้อมการลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ภายหลังคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีการจัดการเลือกตั้งฯ ว่า ตนเอง พร้อมด้วยทีมผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก. ได้ลงพื้นที่ต่อเนื่องทุกวัน ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา จึงมั่นใจว่า นโยบายที่พรรคฯ นำเสนอเปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้ เพื่อยกระดับ และแก้ไขปัญหาชีวิตคนเมืองกรุงเทพ ทั้งการทำมาหากิน ด้านการศึกษา สาธารณสุข ปัญหาซ้ำซากทั้งน้ำท่วม รถติด หรือแม้แต่ฝุ่น และสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ หากไม่สามารถแก้ปัญหาได้ อีก 4 ปีข้างหน้า ก็จะยิ่งเป็นปัญหามากขึ้น จึงมีความพร้อม และมั่นใจในทีมผู้สมัคร ที่ลงพื้นที่สำรวจปัญหา พร้อมเสนอนโยบายได้จับต้องได้จริง ๆ 

ส่วนการเปิดนโยบายแก้ไขปัญหากรุงเทพมหานครทั้งหมดนั้น นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า เมื่อตนเอง และทีมผู้สมัคร ส.ก.ได้ลงพื้นที่กรุงเทพมหานครครบทั้ง 50 เขตแล้ว ก็จะมีการเปิดนโยบาย ตอกย้ำนโยบายอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมั่นใจว่า แนวคิดการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น ที่ได้เปิดเผยพร้อมกับการเปิดตัวลงสมัครผู้ว่ากรุงเทพฯ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมานั้น ถือว่า ตอบโจทย์ปัญหาต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานครอย่างรอบด้าน 

นายสุชัชวีร์ ยังกล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ตนเองยังเป็นรองผู้สมัครคนอื่น ๆ โดยเชื่อว่า ช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ยังมีเวลาที่จะสามารถลงพื้นที่พบประชาชนได้อีก และผลสำรวจที่ออกมา ยิ่งทำให้มีกำลังใจต้องลงพื้นที่เพิ่มขึ้น เพื่อพบปะประชาชน ให้ประชาชนมีความมั่นใจ และเห็นถึงความตั้งใจของตน 

ส่วนกังวลหรือไม่จะเป็นการตัดคะแนนกันเองในระหว่างผู้สมัครที่มีอุดมการณ์ทางการเมือง​คล้ายกัน เช่น นายสกลธี ภัทธิยะกุล และพลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง เป็นต้นนั้น นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนได้พิจารณาถึงบุคคล และนโยบาย เพราะหน้าที่ผู้ว่า กทม. ที่ตนตั้งใจไม่ใช่การเมืองไปทั้งหมด แต่จะต้องเน้นในการแก้ปัญหา ทั้งงานช่าง งานพ่อบ้าน การดูสุขภาพประชาชน ดูแลเยาวชนในเรื่องการศึกษา จึงขอให้ประชาชน ได้ตัดสินที่คุณสมับติผู้ที่ลงสมัคร ที่จะทำให้เห็นความแตกต่าง พร้อมยังขอเป็นกำลังใจให้ผู้สมัครทุกคน 

วันเดียวกัน นายสุชัชวีร์ ได้ลงพื้นที่เขตคลองสามวา และสายไหม เพื่อสำรวจปัญหาคลองพระยาสุเรนทร์ ซึ่งนายสุชัชวีร์  ได้ย้ำถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาน้ำ ที่สำคัญต่อคนกรุงเทพฯ เพราะนอกจากจะสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมธรรมชติแล้ว ยังสำคัญต่อคนกรุงเทพด้วย เพราะสามารถใช้ในการสัญจร เป็นแหล่งท่องเที่ยว และสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่ จึงตั้งใจจะแก้ไขปัญหาน้ำให้ได้เชื่อมโยงทั้งระบบ

นอกจากนั้น ยังได้สำรวจปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่นายสุชัชวีร์ เสนอให้มีการติดตั้งเครื่องตรวจวัดคุณภาพฝุ่น ให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และแสดงค่าอากาศ เพื่อให้ประชาชนสามารถป้องกันตนเองได้ และผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เช่น การไม่อนุญาตให้รถประจำทาง หรือรถบรรทุก ที่มีควันดำมาใช้งาน หรือมาใช้ในการขนส่งตามไซด์งานก่อสร้างต่าง ๆ ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืน จะต้องถูกเพิกถอนในอนุญาต รวมถึงการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ ที่จะต้องมีการแรป หรือปิดคลุมไซด์ก่อสร้าง เพื่อไม่ให้ฝุ่นกระจาย หรือมีอุปกรณ์การก่อสร้างตกหล่นลงมาเป็นอันตรายต่อประชาชน ซึ่งหากไซด์งานไหนมีการแรปการก่อสร้าง ก็สามารถนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวมาลดหย่อนภาษีได้ เพื่อไม่ให้ชาวกรุงเทพฯ ต้องตายผ่อนส่งกับปัญหาฝุ่นในเมือง พร้อมมั่นใจว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้