มท.1 ชมชุดทลายธุรกิจ "ค้ามนุษย์" กลางกรุงฯ กำชับผู้ว่าฯทั่ว ปท.ทำต่อเนื่อง
มท.1 ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จากปฏิบัติการ “ทลายธุรกิจค้ามนุษย์กลางกรุง” พร้อมกำชับผู้ว่าฯ ทั่วประเทศใช้ทุกกลไกมหาดไทยขจัดการค้ามนุษย์อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2565 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ และกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทั้งในเชิงป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการและกำชับในการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ใช้ทุกกลไกของกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการอย่างจริงจังต่อเนื่อง เพื่อขจัดขบวนการค้ามนุษย์ให้หมดไป ด้วยการเข้มงวดในประเด็นด้านการข่าว การสืบหาข่าวสารสำคัญในพื้นที่ การติดตามและประเมินสถานการณ์การค้ามนุษย์ภายในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และเน้นย้ำกำชับไม่ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกระดับเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์โดยเด็ดขาด และให้ดำเนินงานในเชิงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้องตามระเบียบ กฎหมาย และสอดคล้องกับแนวนโยบายที่เกี่ยวข้อง
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า กรณีการเข้าจับกุมผู้กระทำความผิดข้อหาค้ามนุษย์ของพนักงานฝ่ายปกครองชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เมื่อคืนวันที่ 15 มี.ค. 2565 เวลา 21.00 น. ที่ได้สนธิกำลังเข้าจับกุมตัว นางสาวรัชดา ศรีตะเขต อายุ 42 ปี ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นแม่เล้าแสวงหาประโยชน์จากการนำเด็กสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี มาขายบริการทางเพศให้กับนักเที่ยวที่มาใช้บริการในสถานบริการ ชื่อ 789 บาร์ ภายในซอยสุขุมวิท 7 โดยแม่เล้าทำหน้าที่เชียร์แขกให้ดื่มเหล้าเบียร์และโฆษณาขายบริการทางเพศกับนักเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย หากลูกค้าถูกใจสามารถจ่ายค่าตัวแล้วพาเด็กออกไปร่วมประเวณีได้ทันที โดยถูกตั้งข้อหาหนัก ในความผิดฐานค้ามนุษย์ เป็นธุระจัดหาเพื่อการค้าประเวณี จัดให้มีการค้าประเวณี ชักจูง ส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร และความผิดฐานเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า การนำไปสู่การจับกุมครั้งนี้ มีที่มาจากศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทยได้รับร้องเรียนจากองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ โอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวน์เรลโรด (โอ.ยู.อาร์.) และพนักงานฝ่ายปกครองได้ทำการสืบสวนแล้วพบบุคคลมีพฤติการณ์เป็นนายหน้านำเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี เสนอขายบริการทางเพศ จึงได้ทำการรวบรวมพยานและปฏิบัติการเข้าจับกุมดังกล่าว โดยสามารถช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ได้ จำนวน 3 ราย เป็นเด็กหญิงอายุ 14 ปี 1 ราย และเด็กหญิงอายุ 15 ปี 2 ราย ซึ่งได้นำตัวเด็กหญิงผู้เสียหายทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ส่วนผู้ถูกจับกุมได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี เพื่อดำเนินคดี ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ ได้รับทราบการปฏิบัติดังกล่าว พร้อมชื่นชมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการมุ่งมั่นปราบปรามการค้ามนุษย์ให้หมดไป
นายชัยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า กระทรวงมหาดไทยมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ด้วยการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ตามนโยบายของ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ทั่วประเทศ สามารถแจ้งผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง