เปิดสเปก-ลักษณะต้องห้าม! ผู้สมัคร “ผู้ว่าฯ กทม.” ใช้งบหาเสียงไม่เกิน 49 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2565 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คุณสมบัติผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) รวมถึงนายกเมืองพัทยา และสมาชิกสภาเมืองพัทยา เป็นไปตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ได้แก่

• มาตรา 46 กำหนดให้ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นด้วย
• มาตรา 49 เช่น ผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องมีสัญชาติไทยโดยกำเนิด มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง เป็นต้น
• มาตรา 50 กำหนดลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 26 ข้อ เช่น เป็นเจ้าของหรือถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราว หรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือประพฤติมิชอบในวงราชการ เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการทุจริตในการเลือกตั้ง เป็นต้น

ส่วนจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้ว่าฯ กทม. เมื่อประกาศให้มีการเลือกตั้ง การคำนวณค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นฯ โดยให้คำนวณค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ กกต. ประกาศให้มีการเลือกตั้งจนถึงวันเลือกตั้ง

สำหรับ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ใช้จ่ายได้ไม่เกิน 49 ล้านบาท

ทั้งนี้การประกาศคุณสมบัติดังกล่าว เนื่องจาก กกต.ออกประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นของกรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ในวันที่ 25 มี.ค. 2565 และกำหนดรับสมัครระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-4 เม.ย. 2565 และวันเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. 2565