"นายกฯ" ส่งซิก "กทม." ดีขึ้นเยอะ ทำกันต่อไป ไม่อยากให้หวน ไร้ระเบียบ รกรุงรัง
"นายกฯ" เผย ลงพื้นที่ "คลองโอ่งอ่าง" เรื่องของผม เหตุ เป็นผลงานรัฐบาล ที่สนับสนุนให้พัฒนา ยัน ไม่เกี่ยวโยง ศึก "ผู้ว่าฯกทม." โยน สื่อวิเคราะห์ไปเอง ลั่น ไม่อยากให้ กรุงเทพฯ กลับไปไร้ระเบียบรกรุงรัง ชี้ ดีขึ้นตั้งเยอะ ก็ทำกันต่อไป จับตา ส่งซิก หนุน "อัศวิน"
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เเถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2565 ว่า เรื่องดิจิทัลเป็นเรื่องสำคัญสำหรับประเทศไทย ที่จะต้องทำอย่างต่อเนื่อง วันนี้ถ้าดูจากสถิติคนไทยเราใช้อินเตอร์เน็ต กว่า80% สูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของโลก แล้วจะได้ประโยชน์อะไรจากการใช้ตรงนี้หรือไม่ อย่างน้อยก็ทำให้เกิดความรู้ เกิดรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มากกว่าการใช้ประโยชน์ในทางที่ไม่สร้างสรรค์
นายกฯ กล่าวว่า การพัฒนาของรัฐบาลหาให้เจอ หาเรื่องที่มันดีอยู่แล้วและดีขึ้นให้เจอ เรื่องที่มันไม่ดียังไม่เรียบร้อยก็บอก รัฐบาลและหน่วยงานพร้อมแก้ไข เพราะเราต้องทำงานหลายอย่างไปพร้อมกัน นึกทบทวนย้อนกลับไปก็ได้ว่าวันนี้มีอะไรดีขึ้นหรือยัง หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยพอใจ มันน่าจะมากกว่านี้ มันน่าจะดีกว่านี้ แต่ถ้าทุกคนเข้ามาอยู่ในระบบบริหารราชการ จะรู้ว่ามันไม่ง่ายนักหรอก สิ่งสำคัญที่สุดคือทุกกิจกรรมมีผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่ หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมากในแต่ละเรื่อง ถ้าจะทำอะไรก็แล้วแต่ต้องฟังประชาชน ถ้าประชาชนยอมรับทำได้หมด ก็เหลือปัญหาอย่างเดียวคือจัดหางบประมาณให้เพียงพอ ก็ขอให้ทุกคนตั้งสติให้ดี เวลาเขาพูดมาก็ฟัง แล้วลองใคร่ครวญหาเหตุผลมันใช่หรือไม่ใช่ จริงหรือไม่จริง ถ้าเรายิ่งขยายสิ่งที่ไม่จริงออกไป ก็ยิ่งทำให้การแก้ปัญหามันยุ่งยาก สับสนอลหม่านไปหมด ไม่ได้โทษสื่อ "บางทีฉันพูดงงเองหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฉันว่าฉันไม่ค่อยงง"
เมื่อถามถึงการลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง พร้อม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (31มี.ค.) นายกฯ กล่าวว่า ผมว่างก็ไป ไปไหนก็ไป นึกออกวันนี้อยากจะไปไหนผมก็ไป เอาอย่างนี้แล้วกัน ไม่ใช่แสดงว่าจากนี้ไปจะลงพื้นที่ ไม่สัญญาไม่อะไรทั้งนั้น เรื่องของผม
เมื่อถามว่า หลายคนมองว่าการที่นายกฯ ลงพื้นที่เมื่อวานนี้ ตรงกับวันรับสมัครผู้ว่าฯกทม. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "มันเกี่ยวอะไรกับผม ผมไปเกี่ยวอะไรกับเขา คุณวิเคราะห์ไปเอง คุณวิเคราะห์แบบนี้ทั้งนั้นแหละ งั้นผมก็ไม่ต้องไปไหนเลยนั่งอยู่ทำเนียบฯก็แล้วกัน ช่วงไหนความเดือดร้อนมันเกิดขึ้นเฉพาะช่วงนี้หรือช่วงไหน มันเกิดมันทุกวัน นายกฯ ก็อยากไปดูทุกวันนั่นแหละ แต่ด้วยว่าติดราชการบ้างอะไรบ้าง บางทีมันก็ไม่สะดวก ไปแล้วก็เกิดปัญหาวุ่นวายจราจรติด โอ้ยมันวุ่นวายนายกฯ ไปไหนแต่ละที ก็เลยไปเล็กๆ"
นายกฯ กล่าวว่า เห็นใจเมื่อวานที่ไปไม่ใช่อะไรหรอก คือที่ไปคลองโอ่งอ่าง ตนก็นึกขึ้นได้ว่า ตนเป็นผู้สนับสนุนโครงการนี้ขึ้นมา ในเรื่องคลองสวยน้ำใส คูคลองในกรุงเทพ ต้องได้รับการพัฒนาเป็นนโยบายของรัฐบาลเอง เป็นงานแรกๆ ที่เกี่ยวกับคูคลอง ตอนนี้ก็ทำอีกหลายโครงการด้วยกัน ไม่ว่าจะบ้านริมคลอง อะไรพวกนี้ทุกคลอง ซึ่งกรุงเทพมีทั้งหมด 120 กว่าคลองทำอย่างไรน้ำมันจะไม่ดำ ก็ได้ปรึกษากับรมว.มหาดไทย ว่าที่ผ่านมาเราทำอย่างไรน้ำมันไม่ดำสำหรับคลองนี้ ก็คือปิดรูระบายน้ำที่จะลงคลองนี้ให้หมด แล้วหาทางชักน้ำเข้าโรงบำบัดน้ำเสียทางอื่น นั่นคือสิ่งที่ท่านบอกว่าท่านจะทำให้ได้ให้ดีที่สุด ทุกๆคนที่พูดมาก็ขอให้ทำให้สำเร็จก็แล้วกัน
นายกฯ กล่าวว่า การลงพื้นที่ประชาชนสะท้อนว่าเข้าใจ รัฐบาลและภาระความจำเป็น เข้าใจสถานการณ์โลก เข้าใจสถานการณ์โควิด เขาเข้าใจมีใครไม่เข้าใจ ก็มีแต่สื่อไม่เข้าใจหรือเปล่าเขาเข้าใจ นายกฯ ก็พูดกับเขาดีๆ เข้าใจใช่ไหม ถ้าแย่ก็ต้องอดทนกันไปนิดนึงก่อน เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น ทำกันอย่างนี้สิมันจะได้ไปข้างหน้าได้ เข้าใจไหม
"มันไม่มีอะไรผิดมันไม่มีอะไรถูกหรอก ไม่มีอะไรผิดทั้งหมดหรือถูกทั้งหมด หรือดีทั้งหมด ไม่ดีทั้งหมด ไม่ใช่เลย เพราะฉะนั้นผมไม่อยากให้มันย้อนกลับไปที่เดิม ไม่อยากให้บ้านเมืองกลับไปที่เก่า ไม่อยากให้กรุงเทพมหานครกลับไปที่เดิม ไร้ระเบียบรกรุงรัง มันก็ดีขึ้นมาตั้งเยอะแล้วไม่ใช่เหรอ ก็ทำกันต่อไป ใครจะทำก็ทำเถอะ ทำให้ได้จริงแล้วกัน" นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การให้สัมภาษณ์ของนายกฯ วันนี้รวมถึงวันก่อน ประกอบกับการลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง นั้น ทำให้มีข้อสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ พยายามส่งสัญญาณให้การสนับสนุน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเป็นผู้ว่าฯ กทม. คนก่อนหรือไม่ เนื่องจาก คลองโอ่งอ่าง ได้รับการพัฒนาในสมัยที่พล.ต.อ.อัศวิน เป็นผู้ว่าฯ กทม. ที่สนองนโยบายรัฐบาล การที่นายกฯ แนะนำให้เลือกผู้ว่าฯกทม. ที่เป็นนักปฏิบัติ มีผลงาน ก็ไปสอดคล้องกับการแถลงลาออกของ พล.ต.อ.อัศวิน ที่นิยามตัวเองเป็นนักปฏิบัติ มีผลงานเยอะ เพียงแต่ไม่พูดเท่านั้น