14ปีภท. "อนุทิน"ลั่นยึดเจตนารมณ์ประชานิยมสังคมเป็นสุข-ปกป้องสถาบัน
ก้าวเข้าสู่14ปีพรรคภูมิใจไทย "อนุทิน"ลั่นยึดเจตนารมณ์ประชานิยมสังคมเป็นสุข-ปกป้องสถาบัน ด้าน"ศักดิ์สยาม"ยืนยันส่งส.ส.ครบ500คน เปิดโอกาสทุกกลุ่มร่วมงานพรรค
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 เม.ย. ที่พรรคภูมิใจไทย(ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานจัดงานทำบุญพรรคภูมิใจไทย "ก้าวสู่ปีที่ 14" โดยมีกรรมการบริหารพรรค รัฐมนตรี และส.ส. รวมถึงสมาชิกพรรค เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง
ขาดเพียงแต่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายทรงศักดิ์ ทรงศรี รมช.มหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
โดยมีการจัดพิธีทางศาสนาทั้งพิธีสงฆ์ และพิธีทางศาสนาอิสลาม เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ทั้งนี้ผู้ที่มาร่วมงานทุกคนต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยเอทีเคก่อนเข้ามาร่วมงาน
นอกจากนี้ยังตัวแทนพรรคการเมือง อาทิ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา นายดล เหตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายวัชระ กรรณิการ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย
อีกทั้งยังมีตัวแทนภาคเอกชนนักธุรกิจ นำกระเช้าดอกไม้ร่วมแสดงความยินดีด้วย
จากนั้นเวลา 11.00 น. นายอนุทิน ได้เป็นประธานคิกออฟการเปิดรับสมัครผู้สนใจเสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ผ่านทางเว็บไซต์ระบบออนไลน์ของพรรค
โดยนายอนุทิน แถลงว่า พรรคภูมิใจไทยเริ่มเข้าสู่วัยทีนเอจในปีที่13 เข้าสู่ปีที่14 ซึ่งเราเป็นพรรคที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อรับใช้ชาติและประชาชนท่ามกลางเหตุการณ์มากมาย และคำสบประมาท คำปรามาท ด้อยค่ามากมายในช่วงที่เราตั้งพรรคขึ้นมาใหม่ๆท่ามกลางการด้อยค่าทั้งหลาย แต่ทุกคนในพรรคก็ร่วมต่อสู้ไม่ท้อถอย
สิ่งสำคัญที่สุดไม่ว่าอยู่ไหนเราจะต้องเพื่อประโยชน์ให้บ้านเมือง ประชาชน สุดความสามารถ เราเริ่มจากเจตนารมย์แรกคือการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เราก็ยังมุ่งมั่นในเจตนารมย์นี้อยู่ เราจะไม่ยอมให้ใครมาลบหลู่ จาบจ้วงสถาบันฯ
จากนั้นก็มาที่เจตนารมย์ ประชานิยมสังคมเป็นสุข ต่อด้วยสงบ สันติ สามัคคี ที่ทุกคนเห็นว่าไม่มีวินาทีไหนที่พรรคจะแปรผันไปจากเจตนารมย์ หรือนโยบายพรรคที่เราร่วมกันทำมา จนการเลือกตั้งล่าสุดปี2562 เราเดินหน้านโยบาย เพื่อปากท้องประชาชน ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน และได้รับความไว้ใจเชื่อมั่นจากประชาชน เลือกให้พรรคมีส.ส.ในจำนวนที่มาร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้
“ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยมีความแข็งแกร่ง เข้มแข็ง มีพลังเพียงพอที่จะผลักดันทุกนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชนได้ 3ปีที่ผ่านมาเราพูดแล้วทำ จากนี้เราเป็นพรรคหนึ่งที่จะทำประโยขน์ให้ประชาชน โดยใช้ผลงานสร้างความมั่นใจ พร้อมให้ประชาชนพิสูจน์แล้ว ไม่ว่ารัฐบาลจะมีความมั่นคง หรือมีอุปสรรคใด ไม่ว่าสภาฯจะมีสิ่งใดๆเกิดขึ้น แต่สภาฯชุดนี้ก็จะครบวาระในวันที่22มี.ค.2566 ครบ4ปี เราทำงานมาเข้าปีที่4แล้ว เราจะไม่พูดว่าสภาฯ หรือรัฐบาลเป็นอย่างไร เรามีหน้าที่ทำงาน ทำงาน พูดแล้วต้องทำให้เกิดผลสำเร็จกับประชาชน ไม่ว่าจะพอใจหรือไม่ต้องทำให้สำเร็จ อีก 11 เดือนต่อจากนี้คงไม่ลากไปนานกว่านี้แล้วก็จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ เราก็พร้อมขับเคลื่อนนโยบายคู่ขนานไป” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายทางการเมืองจากนี้ไป เราต้องใช้ผลงานที่เรามีเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนเลือกพรรคภูมิใจไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง โดยใช้คนที่เข้าใจวิถีชีวิตประชาชน กล้าพูด กล้าทำ และกล้ารับผิดชอบต่อบ้านเมือง เพื่อให้เราได้สานงานที่ทำมาแล้วไปสู่จุดที่สมบูรณ์ที่สุด รวมถึงเพิ่มสิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้นในนโยบายโครงการต่างๆ ยืนยันเราให้ความสำคัญกับทุกภูมิภาค แม้เราไม่ส่งผู้ว่าฯกทม. แต่เราส่งส.ส.กทม.แน่นอน รวมถึงส่งส.ก.ด้วยในจำนวนที่เรามีส.ส.กทม.อยู่4ราย ก็คือจะส่งส.ก.จำนวน4เขต เพื่อเป็นปากเสียงให้ประชาชน ขณะที่การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคภูมิใจไทย จะส่งส.ส.ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เหมือนที่เคยทำมา โดยเน้นไปที่พื้นที่ที่เรามีความแข็งแกร่ง พร้อมทั้งมีการเปิดเว็บไซต์ เพื่อเปิดให้ผู้ที่สนใจมาสมัครเป็นส.ส.ของพรรค หากใครคิดว่ามีความสามารถ ทุ่มเท พร้อมรับใช้บ้านเมือง และประชาชน ก็สามารถสมัครเข้ามาได้ทันที จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกเป็นผู้แทนฯของพรรคภูมิใจไทย
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการประเมินตัวเลขส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า พรรคจะส่งผู้สมัครให้มากที่สุด คือครบทั้งระบบแบ่งเขต 400 คน และระบบัญชีรายชื่อ 100คน ขณะนี้เรามีจำนวนผู้สมัครเกินกว่า200เขตแล้ว
ทั้งนี้พรรคยังเปิดกว้างให้ประชาชนที่มีคุณสมบัติ ลงรับสมัครส.ส. และเห็นด้วยกับแนวทางการทำงานของพรรค โดยเฉพาะการพูดแล้วทำ ก็ขอให้มาร่วมลงสมัครในนามพรรค ทั้งมาสมัครได้ที่ที่ทำการพรรค และเว็บไซต์ของพรรค
ยืนยันว่าไม่มีการปิดกั้น ไม่ว่าจะเป็นใครทั้งสิ้น ส่วนจะตั้งเป้าให้ได้จำนวนที่นั่งส.ส.เท่าไหร่นั้น พรรคก็คาดหวังว่าจะให้ได้มากที่สุด แต่ทั้งหมดอยู่ที่ฉันทานุมัติจากประชาชนเป็นผู้ตัดสิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนของสนามส.ก.นั้นภูมิใจไทยส่งผู้สมัคร ส.ก. เฉพาะในเขตที่มี ส.ส.กทม. ของพรรค 4 เขต คือเขตจอมทอง ธนบุรี สวนหลวง และประเวศ ในนามกลุ่มภูมิใจไทย