ปริญญ์ ลาออกเซ่นปมฉาว เอ้ สุชัชวีร์ เชื่อไม่กระทบหาเสียง-ความเชื่อมั่นพรรค
ปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลาออกเซ่นปมฉาว "เอ้ สุชัชวีร์" เชื่อไม่กระทบหาเสียงผู้ว่าฯกทม. มองเป็นเรื่องส่วนบุคคล
วันที่ 14 เมษายน 2565 "เอ้ สุชัชวีร์" หรือ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. เบอร์ 4 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่นาย ปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ของพรรคฯประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคฯ ภายหลังจากที่ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" ได้ออกมาแฉนักการเมืองดังตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคใหญ่มีพฤติกรรมฉาว
โดย เอ้ สุชัชวีร์ หรือ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. เบอร์ 4 พรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีของนาย ปริญญ์ พานิชภักดิ์ ว่า
"ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกันเพราะตนเน้นเรื่องการลงพื้นที่หาเสียงเต็มรูปแบบ และไม่กังวลกระทบต่อการลงพื้นที่หาเสียง เพราะเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ในส่วนการตั้ง ผอ.คนใหม่นั้น ส่วนตัวไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของพรรคฯ แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่ากรณีนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อถือของพรรคฯ เพราะเจ้าตัวก็ได้ประกาศลาออกแล้ว"
ทั้งนี้ ดร. เอ้ สุชัชวีร์ ยังได้ปฏิเสธตอบกรณีที่นายปริญญ์แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกว่าจะส่งผลดีหรือไม่ว่า ขอให้ไปถามนายปริญญ์เอง
"ผมไม่กล้าตอบว่าเรื่องนี้เป็นเกมการเมืองหรือไม่ เพราะไม่ทราบข้อเท็จจริง ส่วนก่อนจะมีการตั้ง ผอ.เลือกตั้งคนใหม่ คงต้องพูดคุยกับผู้สมัคร ส.ก.ทั้งหมดนั้น ก็ไม่กังวล เพราะผมทำหน้าที่ในฐานะผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ส่วน ส.ก.ทั้ง 50 คน ก็ทำหน้าที่อย่างแข็งขันตามแคมเปญที่วางไว้ จึงไม่น่ามีผลกระทบอะไร" ดร.สุชัชวีร์ กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ปริญญ์” ประกาศลาออกทุกตำแหน่งใน ปชป. ปฏิเสธทุกข้อหาปมสาวร้องถูกลวนลาม
- รู้จัก “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” รองหัวหน้า ปชป. รายได้ธุรกิจล่าสุด 2,152 บาท
- “ปริญญ์”นำทีมคริปโทฯ พบคลังชงยกเว้นภาษี 5 ปีหนุนธุรกิจดิจิทัลเติบโต
- “ปริญญ์” อ้อนคนกรุงเปิดใจให้ “เอ้ สุชัชวีร์-ส.ก. 50 เขต” ยันผลงานประจักษ์
- ขุมธุรกิจ “ดร.เอ้ สุชัชวีร์” นั่ง กก.บริษัทร่วม “ลูกชาย” รมช.คลัง รายได้ 20 บาท
ทั้งนี้วันนี้(14 เมษายน 2565) เมื่อเวลา 15.00 น. นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ได้แถลงข่าวด่วนที่ลานแม่พระธรณี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โดยประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ทุกตำแหน่ง เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พร้อมกับขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา หลังถูกโยงเป็นนักการเมืองดัง ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคใหญ่มีพฤติกรรมฉาว
โดย ปริญญ์ กล่าวว่า ตนขอยืนยันในความบริสุทธ์ใจ ข้อกล่าวหาที่มีมาขอปฏิเสธ แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่กระทบกับการทำงานของตนกับพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากกระทบต่อภาพลักษณ์ จึงตัดสินใจรับผิดชอบด้วยการออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
"พ่อแม่ก็รู้สึกเป็นห่วงต่อเรื่องนี้ แต่ไม่ขอตอบรายละเอียด เพราะต้องการชี้แจงเจ้าหน้าที่โดยตรง ให้กระบวนการยุติธรรมได้ทำงาน สิ่งที่ถูกกล่าวหาไม่ใช่ความจริง ไม่ได้ทำตามข้อกล่าวหาในโซเชียล ต้องให้ความเป็นธรรม ตนขออนุญาตให้การในชั้นศาล" นายปริญญ์ กล่าว