คดี "ปริญญ์ พานิชภักดิ์" สรุปได้ก่อน คดีแตงโม จ่อออกหมายเรียก-หมายจับ
รายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางช่อง MCOT HD 30 ได้พูดคุยกับ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ถึง ความคืบหน้ากรณีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันสรุปได้ก่อน คดีแตงโม จ่อออกหมายเรียก-หมายจับ
รายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางช่อง MCOT HD 30 ได้พูดคุยกับ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ถึง ความคืบหน้ากรณีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังจากที่ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" ได้ออกมาแฉนักการเมืองดังตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคใหญ่มีพฤติกรรมฉาว ตามที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งล่าสุดมีเหยื่อที่ระบุว่าถูกนายปริญญ์ ก่อเหตุเข้าแจ้งความแล้ว 3 ราย ซึ่ง 1 ใน 3 นั้นมีเหยื่อซึ่งเป็นนักศึกษาสาวอายุแค่ 18 ปีด้วยนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รู้จัก “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” รองหัวหน้า ปชป. รายได้ธุรกิจล่าสุด 2,152 บาท
- “ปริญญ์” ประกาศลาออกทุกตำแหน่งใน ปชป. ปฏิเสธทุกข้อหาปมสาวร้องถูกลวนลาม
- "เมียไฮโซลูกนัท" แจ้งเอาผิด รองหัวหน้าพรรค ทนายตั้ม เผยมีเหยื่ออีกหลายราย
เรื่องนี้ พล.ต.ต.จิรสันต์ ได้เปิดเผยความคืบหน้าว่า ขณะนี้มีผู้ที่เข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกับนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แล้ว 3 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีนักศึกษาสาวอายุแค่ 18 ปีด้วยนั้น
เมื่อถามว่าสามารถออกหมายจับได้เลยหรือไม่ พล.ต.ต.จิรสันต์ ระบุว่า เรื่องนี้เป็นความผิดตามนประมวลกฎหมายอาญามาตรา 278 ขึ้นอยู่กับอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หากเกิน 3 ปีก็สามารถที่จะออกหมายจับได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านหมายเรียก อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลฯ ว่าจะออกหมายจับหรือไม่
ส่วนขั้นตอนการดำเนินคดีเท่าที่สอบถามจาก สน.ลุมพินี รอง ผบช.น. ระบุว่า หากผู้ต้องหามีการมอบตัว หรือเข้ามาพบเจ้าหน้าที่เองก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป แต่หากยังไม่มาซึ่งถ้ารูปคดีเข้าข่ายตามที่ระบุก็สามารถออกหมายเรียกหรือหมายจับได้เลย ซึ่งต้องพิจารณาตามพยานหลักฐาน และความเหมาะสมก่อนจะมาดูกันว่าจะออกหมายเรียกหรือหมายจับต่อไป
ยืนยันว่าไม่กดดันแม้คดีนี้จะถูกจับตามองจากสังคม และจะเกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีชื่อเสียง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการโดยเท่าเทียมกัน ไม่ว่าผู้ต้องหาจะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงหรือบุคคลทั่วไป
ณ ขณะนี้คดีที่เกี่ยวข้องกับน้องนักศึกษาวัย 18 ปีเป็นคดีหลักเนื่องจากพยาน หลักฐานค่อนข้างที่จะสมบูรณ์ที่สุด ส่วนเรื่องพยานหลักฐานทางเราขอสงวนไว้ก่อนเพราะอาจจะส่งผลกับกระบวนการสอบสวน
ส่วนอีก 2 รายนั้นซึ่งเป็นการบอกเล่าของเหยื่อและเกิดขึ้นนานแล้ว เมื่อถามว่าพอที่จะทำอะไรได้หรือไม่ ซึ่ง รอง ผบช.น.กล่าวว่า ก็ต้องรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมด้วย นอกจากคำให้การของเหยื่อแล้ว และก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
เมื่อถามว่าคดีที่เกี่ยวข้องกับน้องนักศึกษาวัย 18 ปีจะสรุปได้เมื่อไหร่ รอง ผบช.น.กล่าวว่า น่าจะเร็วๆนี้ ยืนยันว่าสรุปได้ก่อน คดีแตงโม แน่นอน