"อัศวิน" ยัน ไม่ยึดติดอำนาจ ชอบก็เลือก ถ้าไม่ชอบ จะเลือกใครก็ได้

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. เปิดเวทีปราศรัยย่อย ซอยประชาสงเคราะห์ 16 เขตดินแดง โดยมีประชาชนในพื้นที่ประมาณ 20 ชุมชน มาเข้าร่วมรับฟัง โดยกล่าวยืนยันว่าการลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ในครั้งนี้ ไม่ได้ยึดติดอำนาจ แต่บารมีมีเท่าไหร่ก็ไม่หมด จะติดตัวไปตลอด แต่อยากทำให้ประชาชนสะดวกสบาย มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความปลอดภัย และมีความสงบสุขในชีวิต พร้อมกล่าวถึงผลงานในช่วงเป็นผู้ว่าฯ กทม.ว่าตนเป็นนักปฏิบัติ เป็นนักประสานงาน และเป็นคนเปิดกว้างพร้อมรับฟังความเห็นของประชาชน ขอประชาชนอย่าผิดหวังกับกทม. ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้หากช่วยกัน ตนเคยทำงานมาแล้วก็อยากทำต่อให้จบ แม้ตนไม่มีพรรคหนุน แต่มีพรรคพวก จะเอาประชาชนเป็นที่ตั้งในการตัดสินใจ จะทำชุมชนเข้มแข็งขอให้ประชาชนไว้วางใจได้ 

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ตนเป็นคนเปิดเผย หากชอบตนก็เลือกตน หากไม่ชอบตนก็ขอให้เลือกใครก็ได้ที่เข้ามาทำงานให้ประชาชนได้ พร้อมย้ำว่าการบริหารกทม.ไม่ใช่การเมืองแต่เป็นการบ้าน เป็นการปกครองท้องถิ่นแบบพิเศษ ส่วนแผนหาเสียงช่วงหลังสงกรานต์ยังเน้นการลงพื้นที่พบประชาชน มาทำความเข้าใจว่าที่ผ่านมาตนทำอะไรให้คนกรุงเทพบ้าง ส่วนเขาจะเลือกหรือไม่เป็นสิทธิของประชาชน ใครก็ได้ แต่ไม่ใช่คนพูดเก่งเพราะไม่ได้เอาปากทำงาน 

ส่วนที่กล่าวระหว่างปราศรัยว่าโดยมีการระบุว่า "ตนนั้นไม่ยึดติดกับอำนาจ แต่การมีบารมีเท่าไหร่ก็ไม่หมด จะติดตัวไปตลอด เพราะฉะนั้นตนไม่ใฝ่หาอำนาจอยู่แล้ว ตนไม่ได้เสพติดอำนาจแต่การทำให้ชีวิตดีขึ้น และท้ายที่สุดต้องสงบสุขจะทะเลาะกันทั้งเดือนทั้งปีก็ไม่มีความสุข ออกไปค้าขายไม่ได้" นั้น พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ตนหมายถึง ว่าอย่าไปหลงอำนาจ แต่ให้หมั่นสร้างบารมี เพราะเรื่องนี้จะติดตัวไปจนตาย คนที่อยากมีอำนาจรุ่งเช้าอาจจะหมดแต่บารมีจะติดตัวอยู่ คิดว่าประชาชนตัดสินใจได้  

ส่วนกรณีอดีตรองหัวหน้าพรรคการเมืองซึ่งเป็นผอ.เลือกตั้งผู้ว่ากทม.ของพรรคด้วย ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาคดีคุกคามทางเพศ จะส่งผลดีต่อคะแนนนิยมของ พล.ต.อ.อัศวินหรือไม่นั้น เรื่องนี้ ตนไม่ได้สนใจเพราะตนไม่ใช่นักการเมืองเป็นนักการบ้าน

ส่วนผลซุปเปอร์โพลล์ “ปริญญ์เอฟเฟค” ที่พล.ต.อ.อัศวิน อยู่ลำดับ 4 มองว่าแล้วแต่โพลล์ว่าทำสำรวจแค่ไหน กลุ่มตัวอย่างเป็นอย่างไร แต่คนที่จะตัดสินใจคือประชาชนไม่ใช่ผลโพล พร้อมฝากไปยังประชาชนว่าต้องตัดสินใจว่าจะเลือกใคร เพราะเรามีระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ไม่ได้บังคับให้เลือกตน

ส่วนเวทีปราศรัยที่คลองเตย ในวันที่ 24 เมษายน ยังคงเป็นการปราศรัยในข้อเท็จจริง และกล่าวถึงนโยบาย ย้ำว่า ไม่มีหมัดเด็ดใดๆ จะเอาความบริสุทธิ์ใจให้ประชาชนตัดสินใจเอง