มกอช. ผุดไอเดียจัดทำเว็บไซด์ตลาดแมทชิ่งออนไลน์
มกอช. ผุดไอเดียจัดทำเว็บไซตลาดแมทชิ่งออนไลน์เพื่อเชื่อมโยงตลาดระหว่างผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค
สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ หรือ มกอช. ผุดไอเดีย เป็นตัวกลางระหว่าง ผู้ผลิตและผู้ประกอบการ กำลังจะจัดทำเว็บไซด์ ตลาดแมทชิ่งออนไลน์ เพื่อเชื่อมโยงตลาดระหว่างผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค โดยจะใช้ชื่อ www.digitalfarm.com โดยคาดว่าจะมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
นายกฤษ อุตตมะเวทิน เลขานุการกรม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กล่าวว่า “สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ หรือ มกอช.ได้กำหนดเป้าหมายขับเคลื่อนการพัฒนาสินค้าเกษตรและอาหารของประเทศไทยให้สอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล และนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่กำหนดให้ปี 2560 เป็นปีแห่งการยกระดับมาตรฐานการเกษตรสู่ความยั่งยีนอีกด้วย และมกอช. ยังมุ่งนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการพัฒนาการเกษตร
อาทิ การจัดทำตลาดแมทชิ่งออนไลน์เพื่อเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิต ผู้ประกอบการ สมาคมผู้ประกอบการ ห้างสรรพสินค้าต่างๆ และผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี เพื่อขยายช่องทางการตลาดและจำหน่ายสินค้ามาตรฐานของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการต่างๆ เช่น เกษตรแปลงใหญ่ เกษตรอินทรีย์ เกษตรมาตรฐาน รวมทั้งการพัฒนาระบบตามสอบสินค้าเกษตรสำหรับผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี หรือ QR Trace บนระบบคลาวด์ และติดตามแก้ไขปัญหาให้กับผู้ประกอบการที่ใช้ระบบ QR Trace เชื่อมโยงข้อมูลด้านมารตรฐานและสุขอนามัยสินค้าเกษตรและอาหารกับประเทศคู่ค้าด้วย สำนักงานมาตรฐาน
สินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) จึงได้ดำเนินการจัดทำเว็ปไซด์ตลาดออนไลน์ขึ้น เพื่อเชื่อมโยงตลาดระหว่างผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคสินค้าเกษตร เพื่อเป็นช่องทางในการจับคู่ (Matching) ติดต่อซื้อขายสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพแบบออนไลน์ให้กับเกษตกร ผู้ประกอบการ โรงคัดบรรจุ และผู้บริโภค โดยผู้ที่สนใจสามารถสมัครสมาชิกได้ที่ www.digitalfarm.com พร้อมทั้งระบุความต้องการในการซื้อหรือจะขายสินค้าเกษตร ซึ่ง www.digitalfarm.com จะจัดเก็บข้อมูลแหล่งผลิตและแหล่งจำหน่ายจากการรวบรวมความต้องการของสมาชิก อีกทั้งยังประมวลผลเพื่อจับคู่ความต้องการในการซื้อสินค้าเกษตรโดยอัตโนมัติ เพื่อให้สมาชิกตัดสินใจจะซื้อหรือจะขายสินค้าเกษตรได้ตามความต้องการของสมาชิก โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมโครงการเริ่มต้นกว่า 100 ราย” นายกฤษ กล่าว