วิวัฒน์ พริ้งจำรัส เปลี่ยน “มะนาว” สู่เกษตรอุตสาหกรรม
วิวัฒน์ พริ้งจำรัส ปั้น ปรุง เปลี่ยน “มะนาว” สู่ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม นักรบเกษตรสายพันธุ์ใหม่ ที่เติบโตเคียงข้าง “แม็คโคร” กว่า 10 ปี
“ทำอย่างไรถึงจะช่วยเกษตรกรชาวไร่ปลูกมะนาวในจังหวัดเพชรบุรีให้ขายผลผลิตได้ตลอด”
นี่คือโจทย์สำคัญ ที่ทำให้ วิวัฒน์ พริ้งจำรัส ในฐานะเกษตรกรและผู้ทำหน้าที่รวบรวมผลผลิตส่งขายกระจายรายได้ให้ชาวบ้านในนาม ห้างหุ้นส่วนเลมอนโกลด์ ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่แค่การส่งผลมะนาวสดขายให้กับแม็คโครเพียงอย่างเดียว หากแต่ยังคิดแปรรูปให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ “มะนาว” พระเอกของเขา
ผลงานล่าสุดคือ น้ำมันหอมระเหยจากผิวมะนาว ที่ทำให้เขาได้กลายเป็นหนึ่งใน โครงการปรับโครงสร้างปั้นนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้นการปั้นเกษตรกรให้ก้าวสู่การเป็นนักธุรกิจเกษตร และผู้ประกอบการเกษตรแปรรูปอัจฉริยะ ซึ่งเป็นโครงการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ในการเร่งรัดกลไกการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมให้เกิดเป็นรูปธรรม ที่ได้รับมอบหมายนโยบายเร่งด่วนมาจาก ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี
“ผมสนใจเข้าโครงการนี้ เพราะเดิมรับซื้อมะนาวจากชาวไร่ในเพชรบุรี หัวหิน ส่งขายให้กับแม็คโคร แต่ในระยะหลัง เปลี่ยนจากส่งผลมะนาวสด ไปคิดพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม โดยแปรรูปเป็นน้ำมะนาวแช่แข็งแบรนด์ aro ซึ่งเป็นแบรนด์ของแม็คโครมาจนปัจจุบัน”
เมื่อมีโครงการปรับโครงสร้างปั้นธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เขาไม่รีรอที่จะเข้าร่วม โครงการเนื่องจากเห็นว่า การแปรรูปสินค้าเกษตร ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตเกษตรได้ เหมือนกับที่เขาเคยทำมาแล้ว ซึ่งเขาเชื่อว่า “มะนาว” ยังมีประโยชน์อีกมาก และเขาน่าจะทำให้มะนาวแปลงร่างไปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายได้อีกเยอะ
ไม่เพียง น้ำมันหอมระเหยจากผิวมะนาวที่นำเสนอในโครงการ แต่ยังมี น้ำยาล้างจานจากน้ำมะนาวที่แปลกและแตกต่างจากตลาดอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับการพัฒนาและกำลังเข้าสู่กระบวนการจำหน่ายในลำดับต่อไป
“การที่ผมได้ส่งผลผลิตขายให้กับแม็คโคร ทำให้ผมเห็นโอกาสหลายอย่าง เราทำงานร่วมกันมานาน แม้บางช่วงจะประสบปัญหาบ้าง แต่แม็คโครไม่เคยทิ้งเรา เราอยู่ได้ เกษตรกรก็อยู่ได้ และอยู่ร่วมกันมาสิบกว่าปีแล้วครับ ” วิวัฒน์ กล่าว
ด้าน นางจุฑารัตน์ พัฒนาทร ผู้อำนวยฝ่ายประกันคุณภาพ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ในฐานะภาคีเครือข่ายภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า ยุคนี้ การผลิตสินค้าเกษตรที่ไม่สม่ำเสมอ จะเสียโอกาสมหาศาล ต่อจากนี้ไป การทำธุรกิจเกษตรจะเปลี่ยนไปสู่การบริหารจัดการ พัฒนา เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต สร้างมูลค่าเพิ่มได้ เน้นกระจายรายได้ให้กับเกษตรกรด้วยการยกระดับอย่างเป็นระบบตลอดห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งสินค้าเกษตรบริหารจัดการไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก หากเริ่มต้นจากพื้นที่ของเราก่อน เราต้องพัฒนาความคิดของคนทำเกษตร ในบริบทของเกษตรกรรม อุตสาหกรรม เพื่อทำให้เกิดกลุ่มผู้ประกอบการเกษตรแปรรูปพันธุ์ใหม่”
ในงานปิดโครงการปรับโครงสร้างปั้นนักธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ที่จัดขึ้น ณ แม็คโคร สาขารามคำแหง 24 “วิวัฒน์” และเพื่อนนักรบเกษตรพันธุ์ใหม่จำนวน 20 รายจากทั่วประเทศ ซึ่งได้รับใบประกาศเกียรติคุณจาก นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อย้ำเตือนถึงการเป็นกลุ่มเกษตรกรยุคใหม่ที่ปรับตัวได้ทันต่อความท้าทายของเศรษฐกิจโลก เป็น “นักธุรกิจเกษตร” ที่มีความเข้มแข็ง ก้าวพ้นวังวนปัญหาเดิมๆ โดยโครงการนี้จะสร้างโอกาสในการเข้าถึงเงินทุนและเทคโนโลยีที่ทันสมัย การพัฒนาคลัสเตอร์ธุรกิจบริการด้านการเกษตร บริการเครื่องจักร บริการเทคโนโลยีสนับสนุน การพัฒนาและบริหารจัดการฟาร์ม การแปรรูปสินค้าเกษตร และเชื่อมโยงแพลตฟอร์มดิจิทัลด้านเกษตรอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร
หากกระทรวงอุตสาหกรรมสามารถพัฒนานักธุรกิจเกษตรได้ 100,000 รายภายใน 4 ปี สมดังเป้าหมาย เศรษฐกิจไทยจะถูกเสริมความแข็งแกร่งให้แข็งแรงจากฐานรากอย่างยั่งยืนและมั่นคง