กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ มองทิศทางความเชื่อมั่นลูกค้าสร้างบ้านเป็นบวก

กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ มองทิศทางความเชื่อมั่นลูกค้าสร้างบ้านเป็นบวก

เตรียมเดินหน้าเต็มกำลังจ่อปล่อยแบบบ้านเทรนด์ใหม่มาแรง พร้อมอัดงานออกบูธ Event แน่นหวังเรียกกำลังซื้อตลอดทั้งปี  

 

นายสุธี  เกตุศิริ  กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ บริษัทรับสร้างบ้าน  เปิดเผยว่า  ภาพรวมของสถานการณ์ธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2564  คาดว่าจะดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ฟื้นตัว หลังจากที่ทั่วโลกประสบความสำเร็จในการผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเริ่มมีการทยอยฉีดในต่างประเทศและในไทยไปบ้างแล้วนั้น ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมทั้งด้านการส่งออก การการท่องเที่ยว และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐกลับมาฟื้นตัว และปรับตัวดีขึ้นตามลำดับในไตรมาส 3 / 64 เป็นต้นไป แน่นอนว่าจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนและผู้บริโภคโดยทั่วไปให้กลับมาได้ในระดับหนึ่ง  เพราะเหมือนเป็นการได้แก้ปัญหาจากต้นเหตุที่กระทบต่อทุกภาคส่วนตลอดปี 63 ที่ผ่านมา  

 

ทั้งนี้ การดำเนินงานของธุรกิจรับสร้างบ้านในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าความต้องการของลูกค้าสร้างบ้านเริ่มกลับมากระเตื้องและฟื้นตัวดีขึ้น  โดยสังเกตได้จาการติดต่อสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลการสร้างบ้านเข้ามาในปริมาณที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในปีนี้ยังมีอีกปัจจัยบวกที่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น คือในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำ และคาดว่าจะยังคงต่ำอย่างต่อเนื่องไปอีกสักระยะ โดยในช่วงที่ผ่านมาหลายสถาบันการเงินได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จึงทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินเชื่อบ้านได้มากขึ้น และจะช่วยส่งเสริมการเกิดดีมานด์ในธุรกิจรับสร้างบ้านให้มีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้นเช่นกัน

               

โดยจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา ถือเป็นวิกฤตที่ทำให้กลุ่มบริษัทฯ ได้มีโอกาสทำการตลาดแนวใหม่ได้หลากหลายช่องทางและวิธีการมากยิ่งขึ้น  โดยสามารถสื่อสารทางตรงและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างสะดวกรวดเร็วและสื่อสารในวงกว้างได้มากขึ้น ทั้งการรีวิวผลงานสร้างบ้าน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในคุณภาพและงานก่อสร้าง  การแนะนำแบบบ้านและขายแบบออนไลน์  ตลอดจนการให้บริการแก่ลูกค้าถึงบ้านผ่านบริการ  Service @ Your Home   ซึ่งยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ในปีนี้กลุ่มบริษัทฯ จะนำมาใช้อย่างต่อเนื่องผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ  แต่หากให้มองถึงปัจจัยลบเชื่อว่ายังคงมีอยู่บ้าง เพราะคงมีลูกค้าบางส่วนที่ยังเฝ้ารอดูและติดตามให้สถานการณ์ในภาพรวมฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น จึงจะเกิดการเคลื่อนไหวและตัดสินใจลงทุนสร้างบ้าน

 

สำหรับการดำเนินงานของกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ในปี 2564 นี้ คาดว่าจะสามารถผลักดันให้เติบโตได้ประมาณ 10-15% จากปัจจัยต่างๆ ดังที่กล่าวข้างต้น  และยังคงเดินหน้าทำการตลาดรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์อย่างต่อเนื่อง  โดยเมื่อปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ ได้งดรายการออกบูธ Event ใหญ่ไปถึง 2 รายการ  คือ "งานรับสร้างบ้าน Focus" และ "งานสถาปนิก"  ซึ่งในปีนี้สามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมของทั้ง 2 งานได้ตามปกติ รวมถึงงานออกบูธตาม Event ต่างๆ ที่กำหนดแผนงานไว้แล้วตลอดทั้งปี  โดยเฉพาะการจัด Site Seeing  "สร้างบ้าน ต้องเห็นบ้าน"  อีกหนึ่งกิจกรรมที่เป็น Signature สำคัญของกลุ่มบริษัทฯ ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าตลอดการจัดงานทุกครั้งที่่ผ่านมา  ทั้งนี้จากแผนงานที่วางไว้เชื่อว่าจะมีผลดีต่อการเติบโตด้านยอดขายของกลุ่มบริษัทฯ และส่งผลดีต่อธุรกิจรับสร้างบ้านได้อย่างมีนัยสำคัญ  แต่หากจะให้ธุรกิจรับสร้างบ้านกลับมาฟื้นตัวและเติบโตเหมือนช่วงก่อนมีการระบาดของโควิด-19  นั้น คาดว่าจะสามารถกลับมาเป็นปกติได้ในปี 65 เป็นต้นไป  

 

และล่าสุดในปีนี้กลุ่มบริษัทฯ ยังได้ดีไซน์แบบบ้านใหม่เพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าสร้างบ้านในทุกระดับราคา  และทุกความต้องการของบ้านแต่ละสไตล์ในยุคปัจจุบัน  โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ ได้ปล่อย 3 แบบบ้านใหม่  New Design 2021 ในสไตล์  “ Nordic ” เทรนด์บ้านมาแรงในยุคนี้  ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ ในงานออกบูธ "รับสร้างบ้าน FOCUS 2021"  และต่อเนื่องในงาน “บ้านสวนแฟร์ Select 2021”  ซึ่งกลุ่มบริษัทฯมองว่า ยังคงเป็นโอกาสและช่วงเวลาที่เหมาะสม สำหรับลูกค้าที่มีแผนสร้างบ้าน เพราะเชื่อว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงอัดโปรโมชั่นสร้างบ้านในราคาพิเศษ ซึ่งจะสามารถสนับสนุนความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคในช่วงนี้ได้เป็นอย่างดี