ทำไม "ฮ่องกง" ยังยืนหนึ่ง ในโลก "การลงทุน"

ปัจจุบัน นอกจาก “ฮ่องกง” จะเป็นศูนย์กลางทางการเงินแห่งเอเชียแล้ว ยังเป็นหัวใจสำคัญของโครงการ “อ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า” หรือ Greater Bay Area (GBA) ที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจและนวัตกรรม มีเทคโนโลยีทันสมัย และเป็นจุดบ่มเพาะสตาร์ทอัพที่สำคัญของจีนและของโลก นั่นทำให้ฮ่องกงยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนและธุรกิจต่างๆ อยู่เสมอ

การพัฒนาเขตเศรษฐกิจ GBA ขึ้นมา ทำให้ฮ่องกงสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่นี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเยี่ยมในการมุ่งเน้นไปที่โอกาสในจีนแผ่นดินใหญ่และผสานเข้ากับการพัฒนาโดยรวมของประเทศจีนได้ดียิ่งขึ้น

ในอนาคต ทางเลือกในการดำรงชีวิตและการพัฒนาอาชีพสำหรับชาวฮ่องกง อาจสามารถขยายกว้างขึ้น ด้วยโอกาสทางเศรษฐกิจ สังคม และความเป็นอยู่ของฮ่องกง โดยการพัฒนา GBA

ขณะเดียวกัน GBA ได้อานิสงส์จากจุดแข็งพื้นฐานของฮ่องกงภายใต้หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” รวมถึงการเชื่อมโยงระหว่างประเทศ ระบบกฎหมายที่น่าเชื่อถือ บริการระดับมืออาชีพระดับโลก และการไหลเวียนของเงินทุน ข้อมูล และความสามารถอย่างเสรี

เมื่อเร็วๆ นี้ Hong Kong Economic and Trade Office ประจำประเทศไทย, อินโดนีเซีย และ สิงคโปร์ และ InvestHK ร่วมจัดงานสัมมนาออนไลน์ชื่อ “Your GBA winning strategy via Hong Kong (ASEAN edition)” เพื่อให้คำแนะนำนักลงทุนในภูมิภาค รวมถึงอาเซียนที่สนใจคว้าโอกาสทองใน GBA และกำลังมองหาช่องทางสู่ตลาดฮ่องกง โดยมีบรรดาวิทยากรรับเชิญที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการค้า-การลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนในฮ่องกง มาร่วมงานนี้ด้วย

ประเด็นหลักในงานสัมมนาที่เน้นถึงเหตุผลที่ฮ่องกงยังยืนหนึ่งในโลกการลงทุนนั้น ประกอบด้วย 4 ปัจจัยสำคัญ

1. ประตูสู่ตลาด GBA และสากล

การเข้ามาลงทุนและทำธุรกิจในฮ่องกง เป็นเหมือนการเปิดประตูสู่ทำเลทองใหม่ๆ คือ ตลาด Greater Bay Area (GBA) และจีน รวมทั้งเป็นประตูสู่การขยายธุรกิจไปสู่ระดับสากล

2. ศูนย์กลางเชื่อมเศรษฐกิจข้ามพรมแดน

ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางเชื่อมระหว่างจีนกับ GBA ด้วยความเพียบพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานสำคัญข้ามพรมแดน เช่น รถไฟด่วน, สะพานฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ย่นเวลาเดินทางระหว่างกันใน GBA เหลือไม่ถึง 1 ชั่วโมง

3. ประโยชน์จากข้อตกลง CEPA

การเปิดธุรกิจในฮ่องกง ทำให้ได้รับประโยชน์จากกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีน-ฮ่องกง (CEPA) ซึ่งให้สิทธิพิเศษแก่ธุรกิจบริการในฮ่องกงเข้าไปดำเนินธุรกิจในจีนอย่างยืดหยุ่น

4. ภาษีอัตราต่ำมาก

ฮ่องกงมีอัตราภาษีธุรกิจที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับในไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และจีน ที่มีอัตราภาษีธุรกิจอยู่ที่ 10% แต่ถ้าทำผ่านฮ่องกงจะเหลืออัตราภาษีเพียง 7%

นอกเหนือจาก 4 ข้อนี้แล้ว สำหรับบรรดาสตาร์ทอัพในอาเซียนที่มีแผนเข้ามาทำธุรกิจในฮ่องกง ถึงแม้ขณะนี้ตลาดอาเซียนยังเติบโต แต่การขยายมาฮ่องกงเพื่อปูทางสู่ตลาด GBA และจีน ก็เป็นโอกาสดียิ่งสำหรับธุรกิจอาเซียน

นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานฮ่องกง เช่น InvestHK ที่พร้อมให้คำปรึกษา และแนะนำหลักเกณฑ์การลงทุนและข้อกฎหมายต่างๆ ที่ยิ่งทำให้การไปลงทุนและการทำตลาดในฮ่องกงง่ายมากขึ้น

ผู้ที่สนใจลงทุนหรือเปิดตลาดฮ่องกงสามารถติดต่อ InvestHK ประเทศไทยได้ที่ สำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง (Hong Kong Economic and Trade Office: HKETO) ประจำกรุงเทพฯ https://www.hketobangkok.gov.hk

สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/135182934814/posts/10163220285359815/

และรับชมย้อนหลังได้ที่คลิปวิดีโอนี้