อมาโด้ ประกาศเป้าปี 2566 แตะ 3,000 ล้านบาท เดินหน้าลุยตลาด “ทีวีช้อปปิ้ง”

อมาโด้ ประกาศเป้าปี 2566 แตะ 3,000 ล้านบาท เดินหน้าลุยตลาด “ทีวีช้อปปิ้ง”

อมาโด้ ประกาศเป้าปี 2566 แตะ 3,000 ล้านบาท เดินหน้าลุยตลาด “ทีวีช้อปปิ้ง” วางงบการตลาดทีวีซื้อแอร์ไทม์ 400 ล้านบาท รับปีกระต่ายทอง

นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 8 ปี ที่ อมาโด้ ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เรามีจุดยืนคือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ในราคาที่ผู้บริโภคได้รับความพึงพอใจ ซึ่งปีนี้อมาโด้ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งด้านสุขภาพและความงามหลายชนิด อีกทั้งองค์กรขยายธุรกิจมาลุยตลาดทีวีช้อปปิ้ง ที่ผ่านมานั้นอมาโด้มีจุดแข็งด้านความสามารถในการคัดสรรช่วงเวลาที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุดของสถานีโทรทัศน์ชั้นนำในประเทศ มาผนวกเข้ากับ Data Driven Marketing เครื่องมือทางการตลาดที่ทรงประสิทธิภาพ ในการนำเสนอสินค้าและโปรโมชันตรงกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง สามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นถึง 2 เท่า ซึ่งนอกจากการนำสินค้าสุขภาพและความงามจากอมาโด้มาจำหน่ายแล้ว อมาโด้ยังมีพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจจัดสินค้าโปรโมชันพิเศษจัดจำหน่ายผ่าน อมาโด้ ช้อปปิ้ง (amado shopping)

 

"ในปีหน้า 2566 อมาโด้ ได้วางเป้าหมายของบริษัทไว้ที่ 3,000 ล้านบาท โดยยึดหลักสถิติ ความเป็นไปได้ของสภาวะเศรษฐกิจ การเติบโตของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม รวมถึงโครงสร้างภายในขององค์กร โดยใช้งบประมาณการตลาดด้าน ทีวีช้อปปิ้ง เบื้องต้นกำหนดไว้ที่ 400 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้ปิดดีลซื้อแอร์ไทม์ที่มีประสิทธิภาพกับช่องทีวีหลัก ได้แก่ อมรินทร์ทีวี, สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3, สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และช่อง MONO29, Workpoint TV, PPTV HD36 ส่วนช่องอื่นๆ จะต้องมีการประเมินความความคุ้มค่าและปรับแผนระหว่างปี 2566 อีกครั้ง โดยภายใต้นโยบายการดำเนินธุรกิจทุกภาคส่วนเรายึดหลักความถูกต้อง คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค และคุณภาพของสินค้า ซึ่งอมาโด้ช้อปปิ้งอยู่ภายใต้การกำกับของหน่วยงานรัฐ โดยด้านการออกอากาศรายการและเนื้อหาจะมี กสทช.กำกับดูแล, คุณภาพสินค้ามี สคบ. กำกับดูแล และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของอมาโด้ก็จะต้องผ่าน อย." นายธนาตรัยฉัตร กล่าว

กลยุทธ์การตลาดในปีนี้ อมาโด้ยังใช้กลยุทธ์สื่อสารการตลาดในการสร้างการตอกย้ำในตราสินค้า ด้วยพรีเซ็นเตอร์จากซูเปอร์สตาร์คนเดิม โดยต่อสัญญา “ใบเฟิร์น - พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” นั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4

นายธนาตรัยฉัตร กล่าวเสริมว่า ปีนี้นับเป็นปีแห่งความสำเร็จของ อมาโด้ นอกจากในด้านการเติบโตขององค์กรสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำและ ทีวีช้อปปิ้ง แล้ว เราได้รับความไว้วางใจจากคนไทยที่มีให้แก่แบรนด์สินค้าอมาโด้ จากการรับ 4 รางวัลอันทรงเกียรติ ได้แก่ Brand Thailand จาก Marketeer (ต่อเนี่องเป็นปีที่ 3), Thailand’s Most Admired Brand จาก BrandAge (ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2), Superbrands Thailand Award (ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2) และ PRODUCT OF THE YEAR AWARDS จาก BUSINESS+ (ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3) ซึ่งเป็นการันตีคุณภาพและมาตรฐาน ภายใต้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินแบรนด์อมาโด้ ทั้งนี้ในส่วนยอดขายในช่วงที่เหลือของปีนี้และต้นปีหน้า เชื่อว่าจะยังเติบโตต่อเนื่องจากกระแสรักสุขภาพยังคงเติบโต ส่งผลให้ผู้คนมองหาและเลือกจับจ่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เพื่อเป็นของขวัญของฝากในช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน

แก่นในการดำเนินธุรกิจที่สำคัญ (Core Business) 3 ด้าน ของอมาโด้ มีดังนี้

  1. Research & Development คิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง 
  2. สร้างช่องทางขายที่หลากหลายและทรงประสิทธิภาพที่ตอบสนองทันทีทันใด (Real-Time Strategic Platform) 
  3. การขับเคลื่อนการตลาดด้วยข้อมูล หรือ Data Driven Marketing ด้วยการนำข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์หาความต้องการของลูกค้าในเชิงลึก (Customer Insight) สู่การออกแบบโปรโมชันและนำเสนอสินค้าให้ตรงตามความต้องการดังกล่าว ทำให้สามารถเพิ่มยอดขายได้เพิ่มมากขึ้นตามสัญญา “We Live For Your Health”

อมาโด้ ประกาศเป้าปี 2566 แตะ 3,000 ล้านบาท เดินหน้าลุยตลาด “ทีวีช้อปปิ้ง”