ของขวัญปีใหม่!อสังหาฯ ต่อมาตรการลดค่าโอน-จดจำนองอีก1ปี
ของขวัญปีใหม่! มติครม.ต่ออายุมาตรการลดค่าโอน/จดจำนอง ที่อยู่อาศัยปี67ลดค่าจดจำนอง จาก 1 % เหลือ 0.01 % ค่าโอนจาก 2 % เหลือ 1 % ให้คนซื้อบ้าน/คอนโดรวมถึงบ้านมือสอง ราคาไม่เกิน3ล้านบาทจนถึง31 ธ.ค.67 ผู้ประกอบการชี้ ยาสามัญประจําบ้านแค่รักษาอาการไม่ให้บอบช้ำ
วานนี้ ( 26 ธ.ค.) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและรับทราบการดำเนินมาตรการ/โครงการของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 ให้แก่ประชาชน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
มาตรการลดค่าโอน-จดจำนองปี 2567
มาตรการลดค่าธรรมเนียม จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567
มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ส่งเสริมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างความมั่นคงในทางเศรษฐกิจ รวมถึงช่วยรักษาระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยมาตรการดังกล่าวจะให้
ลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 2% เหลือ 1% ค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 1% เหลือ 0.01% (เฉพาะการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน) สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว หรืออาคารพาณิชย์ และห้องชุด (ทั้งบ้านมือ 1 และมือ 2) เฉพาะที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อสัญญา โดยไม่รวมถึงกรณีการขายเฉพาะส่วน ตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567
นั่นหมายความว่า ผู้ที่ซื้อบ้านและคอนโดราคาไม่เกิน3ล้านบาทรวมถึงบ้านมือสอง ! จะการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 1% และการลดค่าจดจำนองอสังหาริมทรัพย์จากอัตราปกติที่ 1% เหลือ 0.01% โดยเริ่มตั้งแต่วันที่กฎหมายบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2567 ตกตัวอย่าง บ้านราคา 3ล้านบาท ปกติเสียค่าโอน 60,000บาท เสียค่าโอน 30,000บาท ค่าจดจำนองปกติเสีย30,000บาท เสียแค่300 บาท
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของผู้ประกอบการอสังหาฯ ระบุว่า การต่อมาตรการดังกล่าวช่วยได้ไม่มากแค่ไม่ให้บอบช้ำไปกว่านี้ ดีกว่าไม่ต่อเพราะยังไม่ได้มีมาตรการอะไรออกมาช่วย เพราะเป็นมาตรการต่อเนื่องที่กำลังจะหมดอายุ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์รวมไปถึงการจดจำนองกับธนาคารเฉพาะกับที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นเซกเมนต์ที่มีจำนวนซัพพลายมากสุดในตลาด ตั้งแต่ปี 2540 ทุกรัฐบาลที่ผ่านมีการใช้มาตรกรอสังหาฯกระตุ้นเศรษฐกิจ เปรียบเสมือนยาสามัญประจําบ้าน