อุตสาหกรรม-โรงแรมเนื้อหอม ออฟฟิศซัพพลายล้น-คอนโดหรู-แคมปัสคอนโดยังไปได้

อุตสาหกรรม-โรงแรมเนื้อหอม ออฟฟิศซัพพลายล้น-คอนโดหรู-แคมปัสคอนโดยังไปได้

ไนท์แฟรงค์ชี้อสังหาฯปี67 ปัจจัยฉุดรั้งการเติบโตท่วม การเข้ามาของธุรกิจEV-ดาตาเซ็นเตอร์หนุนอุตสาหกรรมโตโรงแรมได้อานิสงส์จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น อาคารสำนักงานซัพพลายล้นหลังบิ๊กโครงการวันแบงค็อกเปิดตัวซัพพลายใหม่พุ่ง คอนโดหรู-แคมปัสคอนโดยังไปได้

Key Points: 

  • มุมมอง “Knight Frank Foresight 2024 Pivoting Towards Opportunities” เจาะลึกโอกาสและความท้าทาย 4 เซ็กเตอร์ ที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม โรงแรม อาคารสำนักงาน ในยุคปัจจัยฉุดรั้งการเติบโตท่วมตลาด แต่ยังมีเมกะเทรนด์ ESG ทำให้แนวโน้ม “อาคารสีเขียว” มาแรง

ณัฏฐา คหาปนะ กรรมการผู้จัดการ ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย กล่าวว่า ปี 2567  เต็มไปด้วยความท้าทายจากปัจจัยเสี่ยงที่ถาโถมเข้ามามากมายทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เงินเฟ้อต่ำ หนี้ครัวเรือนยังน่าเป็นห่วง ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยเติบโตช้า เนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยสูง และปัญหา Reject Rate หรือการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงินในปีที่ผ่านมาสูง 50-60%  ในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท

ในต่างประเทศ เศรษฐกิจและการค้าโลกมีความไม่แน่นอนสูงจากภาวะสงครามที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ตลาดการเงินทั่วโลกมีความผันผวนมากขึ้นจากผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยสูง ปัจจัยทั้งหมดส่งผลทางตรงและทางอ้อมต่อเศรษฐกิจ และภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
 

อุตสาหกรรม-โรงแรมเนื้อหอม ออฟฟิศซัพพลายล้น-คอนโดหรู-แคมปัสคอนโดยังไปได้

มาร์คัส เบอร์เทนชอว์ กรรมการบริหาร-หัวหน้าฝ่าย, Occupier Strategy & Solutions กล่าวว่า ธุรกิจที่น่าจับตามองปีนี้ คือ ธุรกิจศูนย์ข้อมูล หรือ Data Center ที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เป็นสัญญาณที่ดีถึงดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรม โดยปี 2566 มีที่ดินถูกขายออกมากถึง 8,867 ไร่ เกิดจากธุรกิจ EV (Electric Vehicle) กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างรวดเร็ว 

นอกจากนี้ยังมีสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ขยายตัวในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC (Eastern Economic Corridor) เป็นพื้นที่เป้าหมายหลักที่นักลงทุนสนใจคิดเป็นกว่า 80% ของธุรกรรมทั้งหมด 
 

คาร์ลอส มาร์ติเนซ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา กล่าวว่า ตลาดโรงแรมขณะนี้ได้กลับไปอยู่ในจุดก่อนสถานการณ์โควิด-19 แล้ว ราคาห้องพักต่อคืนปรับเพิ่มขึ้นสูงมาก แม้ปริมาณนักท่องเที่ยวจะยังไม่กลับมาเหมือนก่อนโควิดก็ตาม 

สิ่งที่เป็นความท้าทายสำคัญของตลาดโรงแรมในปี 2567 คือจำนวนนักท่องเที่ยวจะฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับก่อนโควิดได้หรือไม่ เพื่อทำให้ภาพรวมของธุรกิจโรงแรมกลับมามีผลกำไรอยู่ในจุดที่น่าพอใจ ซึ่งหากพิจารณาจากอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 75% เท่านั้น

“ตลาดโรงแรมค่อนข้างสดใส ราคาห้องพักต่อคืนเพิ่มสูงกว่าช่วงโควิด แต่ต้นทุนการดำเนินงาน เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าไฟ ก็ปรับตัวสูงขึ้นกว่าสัดส่วนของกำไร" 

อุตสาหกรรม-โรงแรมเนื้อหอม ออฟฟิศซัพพลายล้น-คอนโดหรู-แคมปัสคอนโดยังไปได้

ปัญญา เจนกิจวัฒนาเลิศ กรรมการบริหาร หัวหน้าแผนกอาคารสำนักงาน กล่าวว่า ตลาดอาคารสำนักงานเข้าสู่ช่วงที่ท้าทายอย่างมาก จากแนวโน้มการเข้าถือครองพื้นที่ลดลง โดยที่จำนวนซัพพลายเพิ่มขึ้นจากโครงการวันแบงค็อก เข้ามา 150,000 ตร.ม. ในปีนี้ ทำให้เริ่มเข้าสู่ภาวะซัพพลายล้นตลาด

“แม้มีความต้องการใช้พื้นที่เพิ่มขึ้นมากภายในปี 2566 แต่ก็ยังไม่ทันกับซัพพลายที่เข้าสู่ตลาด อาคารสำนักงานจึงแข่งขันสูงขึ้น แต่ส่งผลดีต่อผู้เช่าที่มีตัวเลือกมากขึ้น”

ปี 2566 ต่อเนื่อง 2567 มีสัญญาณที่ดีจากบริษัทข้ามชาติที่ต้องการการย้ายฐานบริษัทเข้ามาไทย โดยเฉพาะจาก “จีน” ในกลุ่มธุรกิจรถอีวี เข้ามาหาพื้นที่จัดตั้งสำนักงาน โดยย่านรัชดาฯ เป็นทำเลเป้าหมาย ส่วนบริษัทคนไทยเริ่มขยับขยายใช้พื้นที่สำนักงานเพื่อประกอบกิจการมากขึ้น เพราะมีส่วนสำคัญต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือในการดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถเข้าร่วมงาน

อายุธพร บูรณะกุล กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์พื้นที่สำนักงานบริการสำหรับโครงการ กล่าวว่า อาคารสำนักงานที่มีแนวคิดด้านความยั่งยืน (ESG : Environment Social และ Governance) เช่น อาคาร Green Building ได้รับความนิยมมากขึ้น รวมถึง พื้นที่สำนักงานที่เน้น Work life balance  และต้องการที่ปรึกษาด้านคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) รับทิศทางธุรกิจในอนาคต

แฟรงค์ ข่าน กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายที่พักอาศัย กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดที่อยู่อาศัยยังเผชิญปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อ และต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทำให้การพัฒนาสินค้าระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทอาจไม่ตอบโจทย์มากนัก ขณะที่กลุ่มมีกำลังซื้อที่อยู่อาศัยเกิน 3 ล้านบาทขึ้นไป เป็นลูกค้าหลักที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจ

สิ่งที่น่าจับตามอง คือ ตลาดบ้านเริ่มเข้าสู่ภาวะเติบโตแบบชะลอตัว เพราะเป็นตลาดเรียลดีมานด์ (Real Demand) ซื้อเพื่ออยู่อาศัย แม้ความต้องการยังมีอยู่ แต่เริ่มตามไม่ทันกับซัพพลายที่ออกสู่ตลาดมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา การขายบ้านในภาพรวมปี 2567 อยู่ที่ 4,000 หลัง

ขณะที่ ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมปี 2566 เปิดขาย 745,335 ยูนิต ขายไป 527,067 ยูนิต หรือ 70.7% ราคาเฉลี่ย 145,000 บาทต่อ ตร.ม. และหากดูยอดขายที่เปิดขายใหม่ในแต่ละไตรมาสพบว่าสามารถทำยอดขายกว่า 30% เท่านั้น ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ยังไม่กลับไปแตะระดับ 40% เหมือนเคยทำได้ในช่วงต้นปี 2566 โดยเฉพาะตลาดราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ที่ผู้ประกอบการพัฒนาโครงการออกมาในจำนวนมาก ขณะที่ตลาดระดับราคา 10-15 ล้านบาท ยังทำยอดขายได้ดี

อุตสาหกรรม-โรงแรมเนื้อหอม ออฟฟิศซัพพลายล้น-คอนโดหรู-แคมปัสคอนโดยังไปได้

ณัฏฐา กล่าวเสริมว่า 2 เซ็กเตอร์ที่ดีในปีนี้ ได้แก่ กลุ่มคอนโดระดับลักชัวรี ราคา 130,000-300,000 ล้านบาทต่อตร.ม. ซึ่งกลุ่มมีกำลังซื้อสูงไม่มีปัญหาถูกปฏิเสธสินเชื่อ และ กลุ่มแคมปัสคอนโด มีกลุ่มผู้ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าเข้ามาเสริมจากเรียลดีมานด์ สำหรับคอนโดระดับลักชัวรีปรับราคาขึ้น10-15% จากต้นทุนที่ดิน ค่าก่อสร้างสูงขึ้น แต่เชื่อว่าไม่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า