ธนาสิริรับมือความเสี่ยงปี67ผุด4โครงการมูลค่า2.5พันล้านคลุมทุกเซ็กเมนต์
ธนาสิริ งัดกลยุทธ์รับมือความเสี่ยงธุรกิจปี67เตรียมผุด4โครงการมูลค่า2,500ล้านบาทครอบคลุมลูกค้าทุกเซ็กเมนต์ตั้งเป้ายอดขาย 1,800 ล้านพร้อมมุ่งสู่เป้าหมาย Lifetime Total Living Solution ตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัย
สุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยว่า แม้ปี 2567 เป็นอีกปีที่ทำธุรกิจอยู่บนความท้าทายจากปัจจัยเสี่ยงหลายด้านต่อเนื่องจากปีก่อนที่ส่งผลกระทบโดยตรง ทั้งผู้บริโภคที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย และบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่บริษัทพร้อมรับมือสภาวการณ์ต่างๆ ด้วยความระมัดระวังทุกด้าน และมองว่าบนความท้าทายนี้ยังมีโอกาสทางธุรกิจที่ได้ปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อเดินหน้าธุรกิจในยุคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างการเติบโตต่อเนื่อง20-30 % ต่อปี
ทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจ และองค์กรปรับตัวให้เข้ากับบริบทที่เปลี่ยนไปตามทิศทางขององค์กร คือ เติบโต-แตกไลน์-น่าอยู่-ยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ “THANA GREEN หรือ Total Green Real Estate Development – Service” มุ่งสู่ Sustainable Development : ESG ที่สร้างสมดุลในทุกๆ ด้าน
“ไม่ใช่เพียงแค่ว่าสร้างบ้าน ขายได้แล้วจบ แต่มุ่งเป้าเป็น Lifetime Total Living Solution ตอบทุกโจทย์การอยู่อาศัยของคนทุกวัย พร้อมมอบบริการครอบคลุม One Stop Service ตามคำมั่นสัญญา”
ภายใต้แนวคิด“ธนาสิริ..เราดูแล” ร่วมกับ Newton EM คลินิกเวชกรรม และกายภาพบำบัด พาร์ทเนอร์ด้านสุขภาพ ที่จะมาคอยดูแลสุขภาพร่างกายของท่านเจ้าของบ้าน และกลุ่มลูกค้าทุกวัยในทุกเซ็กเมนต์ ด้วยการเปิดธุรกิจด้านสุขภาพ Homey Wellness by Newton EM บริการออกแบบการรักษาเฉพาะรายบุคคล ถือเป็นการแตกไลน์สู่ธุรกิจบริการครบวงจรที่คาดว่าสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และเติบโตอย่างยั่งยืน
สุทธิรักษ์ กล่าวว่าในปี 2567 บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,800 ล้านบาท ขณะที่รับรู้รายได้ตั้งเป้าที่ 1,400 ล้านบาท โดยเป้าหมายยอดขาย และรายได้จากการพัฒนาโครงการเพื่อขายดังกล่าวมาจาก ดังนี้
• จากโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาและขาย (โครงการต่อเนื่อง) ในปัจจุบันจำนวน 9 โครงการมูลค่า 4,000 ล้านบาท
• จาก Backlog ที่มีอยู่ 287 ล้านบาท ซึ่งกว่า 50 % จะส่งมอบให้ลูกค้าในไตรมาส 1/ 2567
• เปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท เป็นโครงการที่พัฒนาโดยธนาสิริ กรุ๊ป จำนวน 2 โครงการ มูลค่า 400 ล้านบาท และโครงการร่วมทุนกับอนาบูกิ โคซัน
โดย 4 ปีที่ผ่านมาร่วมทุนมาแล้ว 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,600 ล้านบาท ปัจจุบันมีแผนพัฒนาต่อเนื่อง จำนวน 2 โครงการ มูลค่า 2,100 ล้านบาท ทำให้เชื่อมั่นว่าต่อไปบริษัทจะมีย่างก้าวที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ทั้งนี้ โครงการที่เปิดใหม่นอกจากอยู่ในทำเลหลักแถวนนทบุรีแล้ว ยังขยายตัวสู่ทำเลอื่นที่มีศักยภาพ อย่างโซนบางนา และสุขาภิบาล ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ตั้งแต่กลุ่มที่เพิ่งเริ่มสร้างครอบครัว ถึงกลุ่มที่มีความมั่นคงทางรายได้
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2566 ที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำยอดขายได้ 1,623 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 201 ล้านบาท คิดเป็น 14.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่รายได้เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 1,048 ล้านบาท โดยในส่วนอัตรากำไรขั้นต้น อยู่ที่ 32.3% ยังคงสามารถรักษาอัตราได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยมีการกำหนดราคาขาย ด้วยกลยุทธ์ Phasing พิจารณาควบคู่ไปกับต้นทุนในเฟสนั้นๆ ทั้งยังควบคุมต้นทุน และปรับเปลี่ยนแบบบ้านเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และส่งเสริมการขาย โดยไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนก่อสร้าง