จีนรั้งแชมป์!เปิดตัวเลขโอนคอนโดต่างชาติ ปี66พุ่ง7.3หมื่นล้านโตฟื้นตัว
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เปิดตัวเลขโอนคอนโดต่างชาติปี66จำนวน1.4หมื่นหน่วยมูลค่าพุ่ง7.3หมื่นล้านโต24% ฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติหลังโควิด-19 คนจีนครองแชมป์ซื้อมากสุด รองลงมารัสเซีย สหรัฐฯ และ พม่า ราคาไม่เกิน3ล้านบาทขายดี
วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผยว่า สถานการณ์หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ของห้องชุดของคนต่างชาติในปี 2566 ที่ผ่านมามีสัดส่วนการซื้อห้องชุดของคนต่างชาติขยายตัวจากปีก่อน สัดส่วนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์คอนโด เพิ่ม 13.4% สัดส่วนมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์คอนโด เพิ่ม 24% และหากพิจารณาดูจำนวน"ค่าเฉลี่ย"ของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในปี 2566 พบว่า อยู่ที่ 3,600 หน่วยต่อไตรมาส
โดยมีจำนวนหน่วยใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19ที่มีจำนวนอยู่ที่ประมาณ 3,300 หน่วยต่อไตรมาส สะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
ในปี 2566 ตั้งแต่เดือนม.ค. – ธ.ค.มีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติจำนวน 14,449 หน่วย และมีมูลค่าจำนวน 73,161 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้ซื้อสัญชาติจีนยังคงเป็นกลุ่มที่มีหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดต่างชาติมาเป็นอันดับ 1 มีสัดส่วน 45.8% และ 46.7 %ตามลำดับ ส่วนอันดับ 2 เป็นสัญชาติรัสเซีย มีสัดส่วน 8.7% และ 6.1% ตามลำดับ
ทั้งนี้ ผู้ซื้อจากสหรัฐอเมริกามีหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเป็นอันดับ 3 มีสัดส่วน 4.4% ขณะที่ผู้ซื้อจากพม่ามีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเป็นอันดับ 3 มีสัดส่วน 5.1% มีราคาเฉลี่ยต่อหน่วยสูงสุดที่ 6.6 ล้านบาท! ขณะที่สัญชาติสหราชอาณาจักรมีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดขนาดเฉลี่ยใหญ่สุดอยู่ที่ 56.5 ตารางเมตร
ส่วนภาพรวมสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศ ในไตรมาส 4 ปี 2566 พบว่า หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 3,746 หน่วย ลดลง0.9 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 20,901 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
นอกจากนี้ ในมิติของพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 171,722 ตารางเมตร เพิ่มขึ้น 0.5 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ในไตรมาส 4 ปี 2566 มีสัดส่วนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติ12.8 % ของหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศ ซึ่งเพิ่มสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีสัดส่วน 11.5%
ขณะที่มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติมีสัดส่วน26.1%ของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศ"ลดลง"จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีสัดส่วน 21.1% ส่วนพื้นที่ห้องชุดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างชาติมีสัดส่วน 17.0%ของพื้นที่การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีสัดส่วน14.9%
ทั้งนี้ สัดส่วนที่เกิดขึ้นในไตรมาส4ปี2566เป็นสัดส่วนที่สูงกว่าช่วงปี2566ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19ที่มีสัดส่วนหน่วยและมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่10.1 % และ15.6% สะท้อนให้เห็นว่าผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดที่เป็นชาวต่างชาติเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่มีการซื้อห้องชุดที่มีราคาสูงขึ้นกว่าช่วงปีก่อนหน้า
สำหรับระดับราคาห้องชุดที่เป็นที่นิยมของคนต่างชาติ ในไตรมาส 4 ปี 2566 ห้องชุดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างชาติมากที่สุด อยู่ในช่วงราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทมีการโอนจำนวน 1,849 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 49.4 % ของจำนวนหน่วยทั้งหมด ซึ่งเป็นระดับราคาที่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่นิยมโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน รองลงมาคือ ระดับราคา 3 – 5ล้านบาท มีจำนวน 880 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน23.5%ระดับราคา 5 – 7.5 ล้านบาท มีจำนวน 458 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน12.2 ระดับราคามากกว่า 10ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวน 355 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 9.5%และระดับราคา 7.5– 10ล้านบาท มีจำนวนน้อยที่สุด คือ 204 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน5.4 %ตามลำดับ
