10ทำเลทองBranded Residencesในภูเก็ตมูลค่า8.2หมื่นล้านแชมป์สูงสุดในโลก
ปรากฏการณ์น่าจับตามองบนเกาะภูเก็ต เมื่อนักลงทุนต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาจับจองอสังหาฯบนเกาะทำให้ภูเก็ตกลายเป็นตลาด Branded Residences ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีมูลค่ารวมทะลุ 82,800ล้านบาท
จากข้อมูล C9 Hotelworks กลุ่มที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ ชี้ให้เห็นว่าปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นจากการขยายตัวของการท่องเที่ยว ประกอบกับความมั่นใจในศักยภาพของภูเก็ต ส่งผลให้เกิดการพัฒนาโครงการ “Branded Residences”ระดับหรูมากมายบนเกาะ สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านจากการพึ่งพา“ท่องเที่ยว ”สู่การเป็นทำเลทองของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์
บิลล์ บาร์เน็ตต์ กรรมการผู้บริหาร C9 Hotelworks อธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าวว่า หลังจากผ่านพ้นวิกฤติโควิด บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยจำนวนมากเข้ามาลงทุนในภูเก็ตเนื่องจากการฟื้นตัวของตลาดรีสอร์ทและการท่องเที่ยว แต่“แรงจูงใจ ”สำคัญคือความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นจากกลุ่มผู้ซื้อระดับบน ทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ต้องการย้ายมาอยู่หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในจ.ภูเก็ต
10ทำเลทองBranded Residencesในภูเก็ต ประกอบด้วย1. ลายัน 2.กมลา3.บางเทา4.ราไวย์5.หาดสุรินทร์ 6.หาดในหาน7.ป่าตอง8. กะรน9.หาดในทอนและ10.หาดไม้ขาว
โดยเฉพาะทำเล“บางเทา ”ที่มีจำนวนโครงการอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากจากการเข้ามาร่วมทุนพัฒนาโครงการระหว่างบริษัทอสังหาริทรัพย์และเจ้าของที่ดินส่วนใหญ่จะเป็นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบของ“Branded Residences”เพราะต้องการใช้แบรนด์เข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่าการขาย
6ปัจจัยกระตุ้นอสังหาฯในภูเก็ต
บิลล์ ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของภูเก็ต“ไม่ได้ ”เกิดจากตัวเกาะภูเก็ต แต่เกิดจากปัจจัยกระตุ้นหลัก ประกอบด้วย
1. ภูมิรัฐศาสตร์
2.ไลฟ์สไตล์การทำงานแบบ work-from-anywhere
3.การศึกษา
4.เทรนด์การย้ายถิ่นฐานทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศต่างๆ
5. กลุ่มคนเกษียณอายุ ทำให้เกิดสังคมผู้สูงอายุที่เกษียณอายุเร็วขึ้นหรือเลือกใช้ชีวิตในสถานที่พักผ่อน ยิ่งส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตเพิ่มสูงขึ้น
6.การลงทุน เป็นผลกระทบจากความผันผวนของสถานการณ์โลก จึงดึงดูดความดีมานด์อสังหาฯในจ.ภูเก็ตมากขึ้น คาดว่า อนาคตจะมีแบรนด์แฟชั่น แบรนด์รถยนต์ และแบรนด์ร้านอาหารต่างๆ เข้ามาภูเก็ตมาขึ้นเช่นเดียวกับโครงการที่พักอาศัยในรูปแบบของBranded Residencesที่พุ่งสูงทำให้“ ภูเก็ต”กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับแนวหน้าอย่างไมอามี และดูไบ
สอดคล้องกับกฤษณ์ เตชะสัมมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออริจิ้น เนชั่นวายด์ จำกัดในเครือออริจิ้น กล่าวว่า โครงการออริจิ้น รีสอร์ท เวิล์ด มูลค่า 8,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 25 ไร่ ติดหาดบางเทา จะเป็น Branded Residence จำนวน 2 โครงการ โครงการแรกเป็นโรงแรม และอีกโครงการเป็นคอนโด Branded Residence ระดับ 5 ดาว ทั้งนี้เนื่องจากทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการเข้ามาซื้อและใช้บริการมากขึ้น จากกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่คุ้นเคยกับBranded Residence
“คอนโด Branded Residenceช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มได้เป็นอย่างดี แต่ต้องเลือกแบรนด์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายโดยราคาหรือมูลค่าที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าในแต่ละทำเล ที่สำคัญงานบริการและคุณภาพโครงการต้องเป็นไปตามมาตรการฐานของแบรนด์นั้น สำหรับคอนโด Branded Residence ในบางเทาอยู่ระดับกลาง ไม่มากเท่าทำเลหาดไม้ขาว แต่การแข่งขันในบางเทา เชิงทะเลค่อนข้างรุนแรง เพราะมีจำนวนโครงการเข้ามาพัฒนาจำนวนมาก”
นอกจากนี้ยังมีBranded Residence อย่างบันยันทรี ,เดอะ สแตนดาร์ด,การ์เดนส์ ออฟ เอเดน ฯลฯ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าส่วนใหญ่ที่เป้นชาวต่างชาติ ทำให้เจ้าของโครงการต้องเพิ่มมูลค่าการขาย ด้วยการนำแบรนด์โรงแรมชื่อดังมาบริหารควบคู่กับการขายที่พักสำหรับอยู่อาศัย ประกอบกับนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างประเทศของรัฐบาลไทย เช่น การยกเว้นวีซ่า โปรแกรมวีซ่าระยะยาว และโปรแกรม Thailand Elite ยิ่งช่วยกระตุ้นให้ภูเก็ตกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนและผู้มองหาที่อยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่สอง
ที่ผ่านมามีการคาดการณ์ว่า Branded Residence ในประเทศไทย ภายในปี 2573 จะเติบโตกว่า 70% หรือเฉลี่ยปีละกว่า 10% ซึ่งโครงการ Branded Residence มีมากสุด “ไม่ใช่”กรุงเทพฯ แต่เป็น ภูเก็ต!