รีเจกต์เรต แอลทีวี กำลังซื้อหด ฉุดอสังหาฯปีนี้โตแค่5%อาจติดลบ10%

รีเจกต์เรต แอลทีวี กำลังซื้อหด ฉุดอสังหาฯปีนี้โตแค่5%อาจติดลบ10%

อธิป พีชานนท์ ชี้ ปัญหารีเจกต์เรต แอลทีวี กำลังซื้อหดฉุดตลาดอสังหาฯ สวนต้นทุนเพิ่มขึ้นส่งผลให้บ้านราคาแพง ชงรัฐ ตั้งกองทุนช่วยเหลือผูู้ที่มีรายได้น้อย ลดขนาดบ้านจัดสรรลงเพื่อให้ราคาบ้านเข้าถึงได้ง่าย และทบทวนการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ

นายอธิป พีชานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า  แม้ว่ามาตรการรัฐที่ออกมาช่วยกระตุ้นตลาด แต่ปัญหาอสังหาฯสะสมมานาน กระตุ้นได้แต่ไม่กระตุกเท่าที่ควร เพราะมีปัญหากู้ยากขึ้น มาตรการแอลทีวีของธนาคารแห่งประเทศไทย กำลังซื้อลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ดังนั้นตลาดในปีนี้มีแนวโน้มอาจติดลบ10% หรือกรณีที่สุดโต5%  

ทั้งนี้เนื่องจากข้อมูลในไตรมาสแรกปีนี้พบว่า ตลาดคอนโดมีปริมาณหน่วยขายและโอนติดลบและยอดขายบ้านเริ่มชะลอตัว ส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากต้นทุนเพิ่มขึ้น เป็นผลจากต้นทุนราคาที่ดิน ค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น บวกกับค่าแรงที่เพิ่มขึ้น400 บาท หมายความว่า ราคาบ้านสูงขึ้นคนซื้อบ้านแพงขึ้น 
 

ดังนั้นจึงเสนอภาครัฐ  3 เรื่อง ประกอบด้วย  1.การจัดตั้งมอร์ตเกจฟันด์คล้าย บสย.เพื่อค้ำประกันคนกู้บ้าน ในรูปแบบของกองทุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือมอร์ตเกจฟันด์จะช่วยให้คนมีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัย โดยรัฐต้องตั้งกองทุนค้ำประกัน  20-30% ให้ธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐและอยากเสนอมอร์ตเกจฟันด์อินชัวร์รันซ์ ใช้กับคนทุกระดับไม่ใช่แค่รายได้น้อย

2.การลดขนาดบ้านจัดสรร บ้านเดี่ยว จากมาตรฐานต่ำสุด 50 ตารางวา เหลือ 40 ตารางวา ช่วยลดต้นทุนก่อสร้าง 20% และบ้านแฝดจาก 35 ตารางวา เหลือ 30 ตารางวา ช่วยลดต้นทุนก่อสร้าง 10% คนซื้อบ้านเบาตัว คนซื้อบ้านที่ราคาถูกลง
 

และ3.นโยบายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อิงกับสีของผังเมือง เพื่อแก้ปัญหาจากปัจจุบันที่จัดเก็บอันตราเดียวกันหมด แต่ยังมีลดหย่อนของแต่ละประเทภที่แตกต่างกันสร้างความสับสนอยากให้มีการทบทวนและลดอัตราการจัดเก็บลงเพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ขณะเดียวกันผู้ประกอบการอสังหาฯต้องปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง เพราะการขายยากขึ้น คาดว่า ในปีนี้มีโอกาสที่เกิดสงครามราคาขึ้นอีกครั้งเพื่อระบายสต็อกสินค้าที่มีอยู่จำนวนมาก