บิ๊กมูฟ!เซ็น เอกซ์ปั้น'นิวเอสเคิร์ฟ' 4 ธุรกิจเพิ่มรายได้-ลดเสี่ยง
เซ็น เอกซ์ (SENX) บริษัทในเครือเสนาดีเวลลอปเม้นท์ ที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อต่อยอดในการสร้างรายได้ประจำ หรือ Recurring Income ที่ต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน เพื่อลดความเสี่ยงและเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทแม่
สุพินท์ มีชูชีพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าจากประสบกาณ์ในวงการอสังหาริมทรัพย์กว่า 35 ปี ร่วมทีมบริหารของเซ็น เอกซ์ ให้ความสำคัญกับบริการที่ต้องตอบโจทย์เทรนด์อสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปภายใต้มาตรฐานระดับสากลเพื่อแก้ Pain Point ของลูกค้าตรงจุด
ซึ่งประกอบด้วย 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจ Sen X Property and Facilities Management ให้บริการด้านการบริหารจัดการนิติบุคคลที่อยู่อาศัย ธุรกิจ Sen X Property Development พัฒนาโครงการระดับลักชัวรี่ ธุรกิจ Sen X Digital ให้บริการพัฒนาแอปพลิเคชันอย่างครบวงจร และธุรกิจ Sen X Retail ให้บริการสินค้าผ่านแอปพลิเคชัน Smartify Home เพื่อมอบประสบการณ์ระดับพรีเมียม ตามมาตรฐานสากล
ภายใต้คอนเซ็ปต์ Life Simplified ชีวิตง่าย สบายยิ่งขึ้น อาทิ บริการ Intelligence First Mile - Last mile ที่นำรถยนต์ไฟฟ้ามาให้บริการ รับ-ส่ง เชื่อมต่อไปยังขนส่งสาธารณะ สามารถติดตามตำแหน่งรถ ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อความสะดวกสบายและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ควบคู่ไปกับพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืนทุกรูปแบบให้สอดคล้องกับแนวทางการสร้างเมืองอัจฉริยะที่วางไว้
เริ่มต้นจากธุรกิจProperty and Facilities Managementที่ให้บริการด้านการบริหารจัดการนิติบุคคลที่อยู่อาศัย แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การให้บริการด้านการบริหารจัดการนิติบุคคล ด้วยเทคโนโลยีที่ง่าย สะดวกสบาย และมุ่งสู่ความยั่งยืน พร้อมบุกตลาดอสังหาระดับพรีเมียม ผ่าน "Elite Services" ซึ่งเป็นการบริการลูกบ้านจากทีมงานมืออาชีพผ่านการอบรมตามมาตรฐานประเทศญี่ปุ่น
รวมทั้งบริการ Tenancy management & Hospitality ในการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรให้กับนักลงทุนและการบริหารโรงแรม รวมถึง Services Apartment ภายใต้แบรนด์ "SEN STAY" ซึ่งปัจจุบันบริษัทรับบริหารโครงการทั้งหมดกว่า 100 โครงการ แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 65 โครงการและที่เหลือ35% เป็นบ้านจัดสรร ซึ่งสัดส่วนของบริษัทในเครือ 70 % ที่เหลือ30%เป็นโครงการนอกเคริอคาดว่าปีนี้สัดส่วนของโครงการอื่นเพิ่มมากกว่า 40% พร้อมขยายบริการไปยังอาคารสำนัก
นอกจากนี้ยังมี Property Services ในการเป็นตัวแทนขายเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย เชิงพาณิชย์ และเชิงอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ เพื่อให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ทั้งลูกค้าไทยและนักลงทุนชาวต่างชาติ เช่น จีน ไต้หวัน เมียนมา และอินเดีย
สุพินท์ กล่าวต่อว่า ส่วนของ Property Development จะเป็นการพัฒนาโครงการใหม่ระดับลักชัวรี ราคาหลังละ30ล้านบาทโดยใช้งบระมาณ900ล้านบาทในการซื้อที่ดินในทำเลรามอินทรา กม.9 เพื่อเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวมูลค่ากว่า 2,600 ล้านบาทในไตรมาส4 ส่วนธุรกิจ Digital เน้นการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อช่วยในการบริหารงานอสังหาริมทรัพย์ และเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้อยู่อาศัย เป็นไปตามแนวคิดหลัก “Life simplified” ชีวิตง่ายสบายยิ่งขึ้น
โดยฟีเจอร์ ต่างๆ ซึ่งพัฒนามาจากความเข้าใจเชิงลึก(Customer Insight) ของลูกค้าผ่าน2แอปฯ คือSmartify living ใช้ชำระค่าบริการ การแจ้งซ่อมแซมและติดตามสถานะแบบเรียลไทม์ งานเซอร์วิสต่างๆ ที่โครงการมีไว้ให้บริการ การสื่อสารแจ้งเตือน และความปลอดภัยภายในที่อยู่อาศัย และ Smartify home ที่รวบรวมสินค้าและบริการที่หลากหลาย และสุดท้ายจะเป็นRetail ที่มีเสนาเฟสท์ ไลฟ์สไตล์มอลล์ ย่านเจริญนคร
คาดว่า ปีนี้บริษัทจะมีรายได้1,400ล้านบาทโต40%จากปีก่อน มาจากพัฒนาโครงการลักชัวรี่1,100ล้านบาทและงานบริหารจัดการ300ล้านบาท