พื้นที่ Free Zone เซฟโซน คลังสินค้าและโรงงานให้เช่า
แนวโน้มภาคอุตสาหกรรมไทยกำลังเผชิญหน้าความท้าทายครั้งใหญ่ จากข้อมูลตัวเลขภาพรวมโรงงานที่ปิดตัวลง เฉลี่ยลดลงมาอยู่ไม่ถึง 100 โรงงานต่อเดือน พื้นที่ Free Zone หรือเขตปลอดอากร จึงกลายเป็น เซฟโซนคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า
หากมองในมิติของขนาดโรงงานยังพบตัวเลขการเปิดโรงงานขนาดใหญ่ที่เพิ่มขึ้น ช่วง 7 เดือนแรกของปี 2567 มีจำนวนโรงงานอุตสาหกรรมเปิดกิจการเพิ่มขึ้น 25.9% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสัญญาณเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยเร่งให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายร่วมมือกันในการถอดบทเรียนและกำหนดทิศทางของภาคอุตสาหกรรมให้หยัดยืนต่อไปได้
ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยปัจจัยกระทบเชิงลบรอบด้านอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในพื้นที่สำหรับประกอบการอุตสาหกรรมหลักของไทย ที่กำลังพิสูจน์ศักยภาพของประเทศในการเป็นฐานที่ตั้งโรงงานของเหล่าผู้ประกอบการจากทั่วโลก คือ พื้นที่ Free Zone หรือเขตปลอดอากร เพื่อการสนับสนุนธุรกิจนำเข้า-ส่งออก พื้นที่ Free Zone เป็นพื้นที่ภายใต้การดูแลของกรมศุลกากร ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อประโยชน์ทางอากรศุลกากรในการประกอบอุตสาหกรรม หรือกิจการอื่นที่เป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ โดยผู้ที่จะเข้ามาประกอบกิจกรรมในพื้นที่ Free Zone นี้ ต้องยื่นขอรับใบอนุญาตเพื่อดำเนินการ
ปัจจุบัน ผู้ให้บริการโครงการพื้นที่ Free Zone เบอร์ 1 ของประเทศ คือ พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ (PD) ในเครือ บมจ.มั่นคงเคหะการ ผู้นำโครงการคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า ภายใต้ชื่อ โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน (BFTZ) ซึ่งพบว่า แม้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นตัวดี
กลับมีสัดส่วนผู้เช่าอาคารโรงงานเฉพาะบนพื้นที่ Free Zone รวมทุกโครงการสูงกว่า 70% ขณะที่อีก 30% เป็นผู้เช่าอาคารคลังสินค้าและบริการ ที่ดีมานด์ความต้องการเช่าไม่เคยลดลง เนื่องจากเป็นพื้นที่ Free Zone ประเภทอุตสาหกรรม สามารถใช้ประกอบธุรกิจครอบคลุมในส่วนของการผลิต ขนส่ง จัดเก็บและกระจายสินค้า ได้อย่างครบวงจร
รัชนี มหัตเดชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนาและบริหาร ‘โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน’ กล่าวว่า ภาพรวมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจแบบชะลอตัว เป็นผลพวงจาก Long COVID ที่เกิดกับธุรกิจ ดังนั้น ผู้ประกอบการควรประเมินสถานการณ์ที่อาจส่งผลต่อธุรกิจอย่างใกล้ชิดกว่าที่เคยเป็นมา ส่งผลให้หลาย ๆ ธุรกิจอาจต้องพิจารณาลดจำนวนโรงงานภายใต้การดูแลลง
แต่สำหรับโรงงานที่ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการยกเว้นอากรจากภาครัฐ เพราะตั้งอยู่ในพื้นที่ Free Zone เราพบว่า ยังมีการขยายธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่า การสนับสนุนเชิงนโยบายจากภาครัฐ คือ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีส่วนตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นฐานที่ตั้งโรงงานของเจ้าของธุรกิจจากทั่วทุกมุมโลกในระยะยาว
เนื่องจาก"ไม่ใช่.ทุกธุรกิจที่จะเหมาะแก่การจัดตั้งบนเขตปลอดอากร ส่งผลให้ในอดีต ผู้ประกอบการโดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ มองข้ามพื้นที่ Free Zone เพราะขาดความเข้าใจถึงสิทธิประโยชน์จากการตั้งโรงงานบนพื้นที่ดังกล่าว นำมาสู่คำถามสำคัญว่า แล้วพื้นที่ Free Zone จะตอบโจทย์กลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องจัดตั้งโรงงานในประเทศไทยอย่างทั่วถึงได้อย่างไร
ด้วยเป้าหมายที่จะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง นำไปสู่การปรับโมเดลพัฒนาโครงการ BFTZ ให้มีพื้นที่เขตประกอบการทั่วไป หรือ General Zone เพื่อเป็นทางเลือกรองรับการใช้งานของหลากหลายประเภทธุรกิจและทุกขนาด โดยพรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ ใช้เวลากว่า 15 ปี ผลักดันพื้นที่ยุทธศาสตร์เชิงอุตสาหกรรมของประเทศไทย ไปพร้อมกับการสร้างความเข้าใจ จนปัจจุบันพบว่าผู้ประกอบการทั้งในประเทศและต่างชาติ มีความเชื่อมั่นในการจัดตั้งโรงงานบนพื้นที่ Free Zone และวางแผนขยายธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
“สิทธิประโยชน์ที่ภาครัฐมอบให้ธุรกิจผู้นำเข้า-ส่งออก ที่เข้ามาใช้พื้นที่ Free Zone นั้นเป็นกุญแจสู่การตัดสินใจจัดตั้งโรงงานในประเทศไทย แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการมองให้รอบว่าเรายังสามารถต่อยอดศักยภาพของพื้นที่ได้อย่างไร เพื่อเข้าไปสนับสนุนธุรกิจอื่น ๆ ที่ในวันนี้อาจยังไม่เข้าข่ายที่จะใช้พื้นที่ Free Zone สิ่งที่เราทำได้คือการดึงผู้ประกอบการจากทั่วโลกให้เข้ามาสนใจตั้งโรงงานในประเทศไทยก่อน และในอนาคตเขาก็อาจขยับขยายไปสู่พื้นที่ Free Zone ได้เช่นกัน”
รัชนี กล่าวต่อว่า แนวคิดการพัฒนาพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าให้เช่าของ พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ สะท้อนมุมมองการร่วมผลักดันจุดแข็งของประเทศไทย โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมนโยบายของภาครัฐ แต่ในขณะเดียวกันก็ใช้ความเข้าใจเชิงลึกที่มีต่อเหล่าผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เพื่อนำไปสู่การต่อยอดบริการ ที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมโรงงานองค์รวม
สำหรับอนาคตของโรงงานไทย เราต้องสร้างโอกาสใหม่ ด้วยการต่อยอดอีโคซิสเต็มให้แข็งแกร่ง ทั้งการส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐ เพิ่มทักษะแรงงาน ตลอดจนยกระดับการพัฒนาความร่วมมือของผู้ประกอบการในแวดวงอุตสาหกรรม ศักยภาพพื้นที่ Free Zone เขตปลอดอากร เป็นอีกหนึ่งแนวทางสนับสนุนธุรกิจที่มีการนำเข้า-ส่งออก ตั้งฐานการผลิตในระยะยาว มากไปกว่านั้น เราในฐานะผู้ให้บริการพื้นที่โรงงาน ก็ต้องพร้อมยกระดับบทบาทตัวเองเป็นมากกว่าผู้ให้บริการพื้นที่เช่า เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเริ่มต้นดำเนินธุรกิจได้รวดเร็ว ราบรื่นและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ สนับสนุนพื้นที่เช่าให้แก่ผู้ประกอบการจากหลายประเทศกว่า 238 บริษัท 5 อันดับแรก ได้แก่ ไทย, จีน, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา และยุโรป รูปแบบของพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าประกอบด้วย อาคารสำเร็จรูป Ready Built, อาคารสร้างตามความต้องการ Built-to-Suit และ Ready Built-to-Suit ซึ่งเป็นการพัฒนาอาคารเดิมที่ได้มาตรฐานอยู่แล้วให้ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าแต่ละอุตสาหกรรมที่มีความเฉพาะตัว
ตัวอย่างผู้ประกอบการโรงงาน ที่ยังคงมั่นใจปักหลักในประเทศไทย และเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง คือ บริษัท ไทย ฮาโซ จำกัด บริษัทสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งเริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2555 จัดตั้งโรงงานเพื่อผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์แผ่นทำความสะอาดแบบเปียก แบบแห้ง, กางเกงชั้นในแบบใช้แล้วทิ้ง, แผ่นซึมซับหรือดูดซับของเหลว เพื่อสุขภาพและสุขอนามัย สำหรับเด็กทารก บุคคล โรงพยาบาล โดยมีลูกค้าหลัก อาทิ American P&G, American Frida Baby, Wacoal, ลูกค้าชาวญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางส่วน