ลงทุนอสังหาฯ ดีกว่าอย่างอื่นเป็นไหนๆ พิสูจน์ได้ทั่วโลก

ลงทุนอสังหาฯ ดีกว่าอย่างอื่นเป็นไหนๆ พิสูจน์ได้ทั่วโลก

ในปัจจุบันนี้มีสินทรัพย์มากมายให้เลือกลงทุน บางคนก็เลยเผลอไปลงทุนทางอื่น โดยลืมไปว่าอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์ที่พึงลงทุนที่สุด เขาจึงเรียกว่า Real Estate หรือทรัพย์ที่แท้จริง ส่วนสินทรัพย์อื่นที่นักการเงินคิดค้นขึ้นให้เราเล่น ทำเราพังมานักต่อนักแล้ว

เมื่อวันที่ 20 ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้รับเชิญจาก บจก.บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ให้ไปอภิปรายในงาน Bitkub Summit 2024 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในเรื่อง “Future Fusion: The Future Investment Opportunities เปิดแผนที่ขุมทรัพย์การลงทุนแห่งอนาคต”

ในการลงทุนนั้นนักลงทุนทั่วโลกก็มุ่งหวังจะได้รับ “อิสรภาพทางการเงิน” หรือ Financial Freedom หรือ Financial  Independence คือ “ความสามารถที่เราสามารถทำสิ่งที่ต้องการด้วยเวลาและแรงกายแรงใจที่มีอยู่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงินแต่อย่างใด

หรืออีกนัยหนึ่งคือการที่คุณมีเงินมากพอและปล่อยให้เงินทำงานโดยผ่านการลงทุนในแบบต่างๆ โดยที่คุณไม่ต้องทำงานใดๆ อีกต่อไป 

ลงทุนอสังหาฯ ดีกว่าอย่างอื่นเป็นไหนๆ พิสูจน์ได้ทั่วโลก

การมีอิสรภาพทางการเงินและสามารถใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการเป็นความหวังลึกๆ ของคนแทบจะทุกคน แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถไปถึงและบางคนไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะสร้างอิสรภาพทางการเงินให้กับตัวเองได้” (www.scb.co.th)

โดยรวมแล้วเราต้องการ “อิสรภาพทางการเงิน” แบบไวๆ อยากสบายอยากรวยเร็วๆ โดยไม่ต้องทำงานประจำ หรือไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร (ทั้งที่การเป็นลูกจ้างก็มีโอกาสที่มีชีวิตที่สมบูรณ์พูนสุข เจริญๆ ได้เช่นกัน)

หลายคนหวังว่าจะไม่ต้องทำงาน นั่งเสพสุข เรามักคาดหวังเงินง่ายๆ หรือ Easy Money โดยยอมที่จะเสี่ยงแบบ “high risk, high return” ซึ่งมีโอกาสเจ๊งสูงมาก เช่น คนที่เล่นบิตคอยน์สำเร็จ 10% เสมอตัว 20% เจ๊ง 70%

หลายคนยอมเสี่ยงที่จะลงทุนแบบหวือหวาเพราะยังเป็นคนหนุ่มสาว ยังไม่มีอะไรจะสูญเสีย ไม่มีทรัพย์สมบัติมากมาย เจ๊งก็เริ่มต้นใหม่ได้ หรือขอเงินพ่อแม่ทำทุนต่อได้ หรือยอมล้มละลายติดแบล็กลิสต์ในเครดิตบูโรได้

ยิ่งกว่านั้นหลายคนยังรู้สึกทันสมัยที่ได้เล่นเกมการเงินใหม่ๆ ยิ่งหากมีกูรูวัยกลางคนมาชี้แนะ ยิ่งเตลิดไปใหญ่ แต่อันที่จริงนักลงทุนควรที่จะค่อยๆ สะสมทุนดีกว่า เข้าทำนอง “อำพรางแก่นแกน  ซุ่มซ่อนยาวนาน สะสมกำลัง รอคอยโอกาส” ดีกว่าโฉ่งฉ่างไปลงทุนตามแฟชั่น

ในการทำธุรกิจหรือทำมาหากิน ในโลกนี้ยังมีงานที่ตนถนัดมากมาย ซึ่งก็แล้วแต่จริตของแต่ละคน แต่ก็ดีกว่าจะมาเล่นบิตคอยน์หรือมานั่งเล่นหุ้น หรือซื้อสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ หรือแม้แต่โทเคนอสังหาริมทรัพย์ 

ลงทุนอสังหาฯ ดีกว่าอย่างอื่นเป็นไหนๆ พิสูจน์ได้ทั่วโลก

เราควรทำธุรกิจ SMEs เช่น ธุรกิจผับ-บาร์ ท่องเที่ยวชุมชน สื่อ (การตัดต่อ) ธุรกิจการตลาดดิจิทัล ธุรกิจสัตว์เลี้ยง และธุรกิจสุขภาพธุรกิจการแพทย์-ความงาม ธุรกิจฟินเทค ธุรกิจจัดทำคอนเทนท์ ธุรกิจแพลตฟอร์มตัวกลาง ธุรกิจบันเทิง ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจอาหารเสริม คลังสินค้า ธุรกิจอีสปอร์ต ธุรกิจความเชื่อศรัทธา ฯลฯ แล้วค่อยไปรวยทีหลัง อดทนก่อน ไม่ใช่ตั้งเป้าจะรวยเร็ว

การทำธุรกิจ เราจะได้มูลค่าเพิ่มของธุรกิจ (Return of Investment หรือ Capital Gain) และค่าเช่า (Return on Investment / Rent) ทั้งยังสามารถสร้างแบรนด์ได้อีกด้วย และถือเป็นขั้นตอนที่จะเติบโตต่อไปในอนาคต

ซึ่งเป็นเสมือน Leverage หรือการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ นั่นเอง เราทำธุรกิจเล่นหุ้นหรือเล่นคริปโต ไม่ได้ช่วยให้เกิดอัตราผลตอบแทนข้างต้น อย่างมากก็ได้เพียง Return on Investment เท่านั้น

ลงทุนอสังหาฯ ดีกว่าอย่างอื่นเป็นไหนๆ พิสูจน์ได้ทั่วโลก

ในกรณีที่สนใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่มีเงินจะทำอย่างไร ทั่วโลกเห็นคล้ายกันว่า เราต้องเริ่มต้นเช่นนี้ 

1.ควรศึกษาหาความรู้จากหนังสือ ตำรับตำรา วีดีทัศน์ ฯลฯ ซึ่งมีผู้สอนมากมาย และถ้าเราพยายามใช้วิจารณญาณ เราก็จะสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในด้านต่างๆ เช่น ศึกษาความเป็นไปได้ในด้านกายภาพ ตลาด การเงินและกฎหมาย เป็นต้น

การศึกษาแบบนี้สามารถทำอย่างเป็นระบบได้ ดูความเปลี่ยนแปลงที่แท้ได้เพราะมีพื้นฐานหรือ Fundamental ที่แท้ ไม่เหมือนการวิเคราะห์คริปโต ซึ่งแทบไม่มีใครวิเคราะห์อะไรถูก แล้วแต่ “วาฬ” จะให้ขึ้นหรือลงในตลาด

2.ควรลงทุนศึกษาไปก่อน เช่น ในแถวบ้านเรา หรือในพื้นที่ของเรา เราต้องไปดูห้องชุด หรือทาวน์เฮาส์ หรือบ้านเดี่ยวที่สนใจก่อน ตระเวนดูสัก 20-50 แห่ง จะได้มีความรู้ในการเลือกทรัพย์สิน

เมื่อเราดูได้ระดับหนึ่งก็จะสามารถตัดสินใจได้ว่าหลังไหน หรือยูนิตไหนที่ควรจะลงทุน ถ้ามั่นใจจริงๆ เราก็อาจหาผู้ร่วมลงทุนจากญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูง เพื่อที่จะ “ซื้อมา-ขายไป” และเมื่อเชี่ยวชาญก็ขยายไปเรื่อย

3.เริ่มอย่างไม่ต้องใช้เงินโดยแปลงตนเองเป็นนายหน้า ซึ่งอาจไปเข้าสังกัดใดก็ได้ หรือทำเองก็ได้ ค่อยๆ ศึกษาเรียนรู้ การเป็นนายหน้าจะทำให้เรามีความรู้แบบติดดินแท้ๆ มีความอดทนในการบริหาร-จัดการลูกค้า แม้แต่เจ้าของโรงแรมใหญ่ๆ ก็ยังบอกว่าเราควรมีจิตใจบริการ ซึ่งถ้าเราทำกิจการนายหน้าได้ดีแล้ว ก็สามารถขยับขยายต่อไปได้เพราะมีทุนมากขึ้น

4.อาจเริ่มเป็นนักวิชาชีพก็ได้ เช่น ผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน ผู้บริหารทรัพย์สิน หรือแม้แต่เป็นผู้รับเหมาสร้างบ้าน ซึ่งจะทำให้เรามีความรู้เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์อย่างลึกซึ้ง

5อาจทำการซื้อขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เช่น Real Estate Investment Trust (REIT) หรือการไปซื้อโทเคนอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทมหาชนไปก่อนก็สามารถทำได้

ลงทุนอสังหาฯ ดีกว่าอย่างอื่นเป็นไหนๆ พิสูจน์ได้ทั่วโลก

6.เมื่อมีทุน เราอาจซื้ออสังหาริมทรัพย์มาปล่อยเช่า ปรับปรุงแล้วขายต่อหรือค่อยๆ พัฒนาโครงการเล็กๆ ก่อน เช่น จัดสรรที่ดิน ทำทาวน์เฮาส์ไม่กี่หน่วยเป็นโครงการเล็กๆไปก่อน แล้วค่อยสร้างอาคารชุด ทำอพาร์ตเมนต์ ทำโรงแรม ฯลฯ

7.เมื่อการพัฒนาใหญ่ขึ้น เราก็อาจพัฒนาจนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในที่สุด หรือไม่ก็เป็นการสร้างแบรนด์ เช่น หากทำอพาร์ตเมนต์ แล้วสามารถขายไปในที่ต่างๆ ก็จะทำให้สร้างแบรนด์ขึ้นมาได้ สร้างแฟรนไชส์ได้นั่นเอง

ถ้าในที่สุดเราต้องการเกษียณอายุก็สามารถขายอสังหาริมทรัพย์ของเราได้ ขายสังหาริมทรัพย์ที่ควบในธุรกิจนั้นได้ หรือขายโนว์ฮาว  ขายซอฟต์แวร์ในการประกอบธุรกิจ และขายแบรนด์ของกิจการของเรา ซึ่งจะมีมูลค่ามากกว่าการขายแต่อสังหาริมทรัพย์เท่านั้น 

เราจึงพึงทำธุรกิจที่สร้างสรรค์ในสังคมมากว่าการไปนั่งเล่นคริปโต ซึ่งเป็น “ของเล่น” สำหรับเยาวชนที่ยังไม่เห็นทางออกในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ตามที่แนะนำข้างต้น

คิดใหม่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จึงดีที่สุด เพราะเป็น Real Estate คือทรัพย์ที่เป็น “ของแทร่”.

คอลัมน์ อสังหาริมทรัพย์ต่างแดน
ดร.โสภณ พรโชคชัย 
ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย 
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส 
www.area.co.th