โลกขัดแย้ง-สงครามการค้าอานิสงส์อสังหาไทย ผนึกเอเจนต์เร่งเจาะต่างชาติ

ธนกร วุฒิพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ในปี 2568 บริษัทยังคงเดินหน้าเจาะตลาดลูกค้าต่างชาติ โดยเปิดรับเอเจนต์รายใหม่ๆ เข้าร่วม Origin Agent Club  การเดินสายโรดโชว์ไปยังตลาดประเทศใหม่ๆ การพิจารณาเปิดสำนักงานขายในต่างประเทศที่มีลูกค้าให้ความสนใจ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงโครงการได้ง่ายขึ้น

ขณะเดียวกัน ยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับเอเจนต์หลัก (Key Agent) เพื่อรักษาฐานการเติบโตของตลาดในโซนเอเชีย เช่น ไต้หวัน ฮ่องกง ควบคู่กัน เพื่อนำเสนอโครงการทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญ  ให้ถึงมือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

 

"อสังหาริมทรัพย์ในไทยมีความโดดเด่นหลายด้าน ราคาจับต้องได้ การออกแบบทันสมัย ทำเลและสภาพอากาศเอื้อต่อการใช้ชีวิต มีศักยภาพที่จะเจาะตลาดโลกได้ จึงเดินหน้าสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่ง เพื่อให้อสังหาริมทรัพย์ของเราเป็นที่รู้จัก ได้รับการยอมรับในตลาดโลกมากยิ่งขึ้น"

โดยก่อนหน้านี้ ออริจิ้น เวอร์ติเคิลฯ ดึง “ท็อป โอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้” ที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดเอเชีย  มีเครือข่ายที่กว้างขวาง และประสบการณ์ในการให้บริการลูกค้าทั่วโลกมาเป็น “มาสเตอร์ เอเจนต์” ตัวแทนขายหลักโครงการคอนโดมิเนียมในทำเลฮอตใจกลางเมืองพัทยา โซ ออริจิ้น พัทยา มูลค่า 1,750 ล้านบาท ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้โครงการเข้าถึงลูกค้าต่างชาติหลากหลายประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และรัสเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และกลุ่มนักลงทุนระยะยาว
 

ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า จากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้าโลก ส่งผลให้ชาวต่างชาติหันมาสนใจซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาบริษัทจัดโรดโชว์โครงการไปยังเมียนมาได้การตอบรับที่ดี 

ล่าสุด ไซมิส แอสเสท วางกลยุทธ์ขยายโอกาสทางธุรกิจด้วยการเปิดตัว Investment Program เน้นให้บริการลูกค้าที่ต้องการสร้างรายได้แบบ Passive Income ในโครงการ “แลนด์มาร์ค แอทเอ็มอาร์ทีเอ สเตชั่น”  มิกซ์ยูสขนาดใหญ่ บนที่ดินกว่า 13 ไร่ ทั้งหมด 3 อาคาร บนถนนพระราม 9 เป็นย่านเศรษฐกิจใหม่ (New CBD) ที่มีศักยภาพ ประกอบด้วยอาคาร แคสเซีย พระราม 9  เป็นแบรนด์ในเครือบันยันกรุ๊ป เปิดให้ลูกค้าที่สนใจเข้ามาซื้อลงทุนในห้องชุด พร้อมทำสัญญาให้ทีมบริหารโครงการดูแลในรูปแบบ “แคสเซีย เรสซิเดนซ์” และ “แคสเซีย โฮเทล” การันตีผลตอบแทนปีละ 5% สำหรับ 5 ปีแรก และ ปีที่ 6-15 เป็นผลตอบแทนแบบแบ่งผลกำไร (Profit Sharing) ตามผลประกอบการของโครงการ

โดยแต่งตั้ง “ไนท์สบริดจ์ พาร์ทเนอร์” เป็น มาสเตอร์ เอเจนต์ ช่วยขายโครงการ แลนด์มาร์ค แอทเอ็มอาร์ทีเอ สเตชั่น ซึ่งมีจุดขายที่ชัดเจนในกลุ่มลูกค้า Branded Residence ซึ่งมองหาที่อยู่อาศัยพร้อมบริการระดับโรงแรมจากบันยันกรุ๊ป รวมถึงโปรแกรมการลงทุนต่อเนื่อง 15 ปี เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มที่สนใจผลตอบแทนแบบระยะยาว

  “นับเป็นการผนึกกำลังระหว่างผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และตัวแทนขายต่างชาติ เพื่อส่งต่อโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าต่างชาติทั้งในและต่างประเทศที่ต้องการบ้านหลังที่สอง และสามารถสร้างผลกำไรได้ด้วย”

ด้าน “พฤกษา” เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของดีเวลลอปเปอร์ที่ใช้กลยุทธ์ร่วมมือกับเอเจนต์ขยายตลาดไปยังโครงการระดับลักชัวรี และแนวราบ ธีระ ทองวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือกับเอเจนต์ทั้งในไทยและต่างประเทศเป็นกลยุทธ์สำคัญช่วยให้พฤกษาเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ซึ่ง พฤกษา มีโครงการที่อยู่อาศัยหลากหลาย ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม ตอบโจทย์ลูกค้าต่างชาติ 

  “เรามุ่งขยายตลาดโครงการระดับลักชัวรีและแนวราบ ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท เพิ่มจากแนวสูง และพร้อมเปิดรับพันธมิตรตัวแทนขายรายใหม่มาช่วยขยายเครือข่ายการขายให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยปี 2566 พฤกษามียอดขายกลุ่มลูกค้าที่มาจากความร่วมมือกับเอเจนต์ทั้งในไทยและต่างประเทศ 2,300 ล้านบาท เติบโตกว่า 114% เทียบปีก่อนหน้า”

ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า กรุงเทพฯ ยังคงเป็นตลาดที่ลูกค้าต่างชาติต้องการซื้อคอนโดมิเนียมมากที่สุดของไทย จากค่าครองชีพเหมาะสมในการอยู่อาศัยและลงทุน ซึ่งหนึ่งในโครงการที่เอสซี แอสเสท ร่วมกับ ยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโคป จำกัด พัฒนาโครงการสโคป พร้อมศรี สุขุมวิท 49 เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 8 ชั้น 1 อาคาร 148 ยูนิต เป็นห้องชุด 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 28-34.99 ตารางเมตร

ล่าสุดแต่งตั้ง บริษัท ไนท์สบริดจ์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด ดูแลโควตาต่างชาติ โครงการ สโคป พร้อมศรี สุขุมวิท 49 ซึ่งเป็นโซนยอดนิยมพักอาศัยของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ผู้เช่าหลัก ทำให้ผู้ซื้อปล่อยเช่ามีโอกาสได้รับผลตอบแทนการเช่าเฉลี่ย 4-5% ต่อปี

ก่อนหน้านี้ สุพินท์ มีชูชีพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น เอกซ์ จำกัด และ กมลภัทร แสวงกิจ กรรมการผู้จัดการ ฝ่าย Intersales-Resales บริษัท เซ็น เอกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส จำกัด ในเครือเสนาดีเวลลอปเม้นท์ ลงนามความร่วมมือกับ หยิงเค ประเทศไทย เพื่อทำการตลาดและขยายฐานลูกค้าที่พักอาศัยชาวจีน ใน 3 โครงการ ประกอบด้วย ปิติ สุขุมวิท 101, นิช โมโน รามคำแหง และ นิช โมโน พระราม 9 เจาะดีมานด์ตลาดจีนที่กำลังเติบโต

ขณะที่ บันยันกรุ๊ป ร่วมมือกับ เนสโทปา แพลตฟอร์ม Property Marketplace สำหรับซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ที่มีฐานข้อมูลบริษัทเอเจนต์และฟรีแลนซ์ด้านอสังหาริมทรัพย์รวมกว่า 300 บริษัท เสริมความแข็งแกร่งในการเจาะลูกค้าเป้าหมาย สร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ (Brand Awareness) กับกลุ่มเอเจนต์และลูกค้าในไทย

ปัจจุบัน บันยันกรุ๊ป เรสซิเดนซ์ มีอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 12,000 ยูนิต ในประเทศไทยมีกว่า 6,000 ยูนิต พร้อมขาย และยังมีโครงการที่จะขยายในหลายประเทศ 

ในประเทศไทย บันยันกรุ๊ป เรสซิเดนซ์ มี โรงแรม รีสอร์ต สปา หลายโครงการในหลายจังหวัด อาทิ ภูเก็ต พัทยา เขาใหญ่ กรุงเทพฯ ให้บริการระดับเวิลด์คลาสช่วยผลักดันยอดขายโครงการให้กับ บันยันกรุ๊ป เรสซิเดนซ์