‘นิปปอนเพนต์’ พลิกเกมรับมือแนวราบหด50%หันเจาะคอนโด-รีโนเวท

‘นิปปอนเพนต์’ พลิกเกมรับมือแนวราบหด50%หันเจาะคอนโด-รีโนเวท

ในภาวะที่ตลาดแนวราบหดตัวกระทบตลาดสี ‘นิปปอนเพนต์’เร่งปรับกลยุทธ์รับมือขยายฐานลูกค้าคอนโดและรีโนเวทพร้อมทุ่ม600 ล้านภายใน 3 ปีปั้นแบรนด์ก้าวสู่Top of Mind

วัชระ ศิริฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบมีการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงถึง 15% ซึ่งต่ำกว่าช่วงที่ผ่านมาหลังโควิด และยังคงมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องในปีนี้อาจถึง50% ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการที่สถาบันการเงินมีการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้โครงการใหม่ๆ ถูกชะลอออกไปมาก การลดลงของตลาดแนวราบนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดขายสีทาบ้าน

รุกสู่ตลาดคอนโดและรีโนเวท

แม้จะเผชิญกับปัญหาดังกล่าว แต่ ‘นิปปอนเพนต์’ ก็ไม่ยอมแพ้ โดยมีการปรับกลยุทธ์เพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่ตลาดใหม่ที่กำลังเติบโต เช่น ตลาดคอนโดมิเนียมและการรีโนเวทบ้าน ซึ่งถือเป็นกลุ่มตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงในช่วงเวลานี้ การที่นิปปอนเพนต์หันมาเจาะกลุ่มคอนโดมิเนียมในรูปแบบของ B2B หรือ Business-to-Business กับบริษัทพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับบริษัทในการขยายฐานลูกค้าหลายกลุ่ม ขณะที่การมุ่งสู่ตลาดรีโนเวทบ้านก็ทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ที่ต้องการปรับปรุงและตกแต่งบ้านเดิมของตนเอง
 

วัชระกล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าไว้ว่าใน 3 ปี (ปี 2568-2570) จะสามารถทำให้แบรนด์ "นิปปอนเพนต์" กลายเป็น Top of Mind  ที่ผู้บริโภคนึกถึงเป็นอันดับแรกทั้งในตลาดพาณิชย์และตลาดค้าปลีก ผ่านการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่เน้นความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้ยางพาราจากประเทศไทยเป็นส่วนผสมหลักในการผลิตสีนิปปอนเพนต์ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สีที่ยางพาราเป็นส่วนผสมครั้งแรกในโลก !

ทุ่มงบ 600 ล้านเพื่อสร้างแบรนด์

เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าว นิปปอนเพนต์ได้วางงบการตลาดกว่า 200 ล้านบาทต่อปี หรือรวมแล้ว 600 ล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้า โดยเน้นการจัดกิจกรรมการตลาดในหลากหลายช่องทาง ทั้งในสื่อดั้งเดิม เช่น โฆษณาทางโทรทัศน์ (TVC) และในแพลตฟอร์มออนไลน์ พร้อมทั้งเปิดตัวมาสค็อตของแบรนด์ เพื่อเพิ่มการรับรู้และสร้างความเชื่อมโยงกับผู้บริโภค

จากการปรับตัวอย่างรวดเร็วและการลงทุนสร้างแบรนด์ "นิปปอนเพนต์" ตั้งเป้าหมายในการเติบโตยอดขายในปีนี้ ให้ได้ 20% จากปีที่แล้ว ยอดขายโต10%ต่ำกว่าเป้าหมาย แต่สูงกว่าตลาดสีที่หดตัวถึง 6-7%  ปัจจุบันตลาดสีในไทยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 40,000-50,000 ล้านบาทในปี 2568 และคาดว่าปีนี้ตลาดอาจทรงตัว หรือโต 2-5% โดยนิปปอนเพนต์ตั้งเป้าเป็นผู้นำในตลาดในอีก 3 ปีข้างหน้า ด้วยการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง