ต่างชาติแห่ซื้อบ้านใกล้โรงเรียนนานาชาติคอนโดเน้นโค-เวิร์กกิ้ง ห้องไลฟ์

ต่างชาติแห่ซื้อบ้านใกล้โรงเรียนนานาชาติคอนโดเน้นโค-เวิร์กกิ้ง ห้องไลฟ์

เทรนด์ซื้ออสังหาริมทรัพย์ เปลี่ยนตามพฤติกรรมลูกค้า กลุ่มเศรษฐี จีน ไต้หวัน พม่า กัมพูชาซื้อบ้านใกล้โรงเรียนนานาชาติ หลังเผชิญปัจจัยเสี่ยงรอบด้านทั้งภาวะเศรษฐกิจ การเมือง ขณะที่คนรุ่นใหม่ไลฟ์ขายของนิยมซื้อบ้านหรู คอนโดเน้นฟังก์ชันก์โค-เวิร์กกิ้ง ห้องไลฟ์

อัญชนา วัลลิภากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เทรนด์ ของรูปแบบการอยู่อาศัยเปลี่ยนไปตามไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ในแต่ละพื้นที่ เมื่อมีการเปลี่ยนรุ่นของคนซื้อรูปแบบการอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปตามอาชีพ ที่มีรูปแบบใหม่ไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตเหมือนเดิมคือการเป็นมนุษย์เงินเดือน รวมถึงการย้ายงานบ่อย !

"ถ้าเขาย้ายที่อยู่บ่อยๆ รวมทั้งบริการต่างๆ ที่อยู่ในโครงการอสังหาฯที่เปลี่ยนไป ยกตัวอย่างในกรุงเทพฯ จะมีโค-เวิร์กกิ้ง สเปซ ในพื้นที่ส่วนกลาง แต่ห้องพักเล็กลง แทนที่จะอยู่ในห้องไปอยู่พื้นที่ส่วนกลางที่มีฟังก์ชันการบริการหลากหลายรูปแบบ เช่น ห้องไลฟ์ขายของออนไลน์ได้ หรือมีบริการไรเดอร์มาเป็นผู้ช่วยในการรับส่งของต่างๆ"

ขณะที่เทรนด์ในเมืองอย่างเชียงใหม่ คือ “เวลเนส ซิตี้” การพัฒนาโครงการเน้นไปที่งานบริการมากกว่า และเชื่อว่าเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีศักยภาพด้าน เวลเนส ในการพัฒนาสินค้าและบริการให้มีความหลากหลายออกมาตอบโจทย์ กลุ่มเป้าหมาย

อีกเทรนด์หนึ่ง คือกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นคน จีน พม่า กัมพูชา ซื้อโครงการใกล้โรงเรียนนานาชาติ เห็นได้จากในกรุงเทพฯ ภูเก็ต สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และในเชียงใหม่ก็มีโรงเรียนนานาชาติคุณภาพสูง พร้อมจะรองรับ จึงเป็นเรื่องที่ดิเวลลอปเปอร์เชียงใหม่ต้องจับตามดูเรื่องหล่านี้

รวมทั้งกลุ่มคนต่างชาติที่มีฐานะ ต้องการความมั่นคงทางการเมือง ที่ต้องการอิสระ สังเกตได้จากกลุ่มคนจีน ไต้หวันที่เข้ามาทำธุรกิจและซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการรัฐที่ออกมา รวมทั้งเพื่อนบ้านใกล้เคียง เช่น คนพม่า กัมพูชาที่เข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยในเมืองไทยมากขึ้น

"อสังหาฯไทยน่าถึงจุดเปลี่ยนสำคัญจากพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เข้ามาซื้ออสังหาฯ มีความหลากหลายในทุกมิติ"

สรนันท์ เศรษฐี  นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่และกรรมการผู้จัดการ บริษัท นอร์ทเทิร์นเรียลเอสเตท จำกัด กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯเชียงใหม่ฟื้นแน่นอน เนื่องจากตัวเลขด้านการท่องเที่ยว การค้า ธุรกิจค้าปลีก ยอดขายดีขึ้น เริ่มมีคนต่างชาติเข้ามาเที่ยวหลังจาก 3-6 เดือนที่ผ่านมาไม่มีเลย และตลาดนัด ถนนคนเดินกลับเข้ามาแม้จะไม่หวือหวาเหมือนพัทยา ภูเก็ตแต่เป็นสัญญาณที่ดี

แต่เมื่อเริ่มฟื้นตัว สิ่งที่ตามมาคือ ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบกับดีเวลลอปเปอร์ที่ไม่ได้มีที่ดินเก็บไว้ทำให้ต้องเจอกับต้นทุนใหม่ เพราะการพัฒนาโครงการเชียงใหม่จะเป็นโครงการแนวราบต่างจากกรุงเทพฯ เน้นพัฒนาโครงการแนวสูง

“ผมมองว่ากำลังซื้อยังมีอยู่ แต่ดีเวลลอปเปอร์ต้องไปเจาะลงไปกลุ่มนิชมาร์เก็ต หรือพัฒนาฟังก์ชั่นตอบโจทย์คนกลุ่มนั้นๆ หรือจัดห้องอเนกประสงค์ไว้รองรับสำหรับการเป็นทำงาน ห้องสำหรับผู้สูงอายุ เลี้ยงสัตว์ เก็บของ ตลาดเชียงใหม่ยังไปต่อได้เพราะเป็นหัวเมืองใหญ่มีสนามบินรองรับการกลับมานักท่องเที่ยว คาดปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าน่าจะเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น