เล็งใช้ “วัคซีนพาสปอร์ต”แทนThailand Pass รอประเมินหลังเปิดประเทศ 1 พ.ค.นี้
“อนุทิน”เผยเล็งใช้ “วัคซีนพาสปอร์ต”แทนThailand Pass รอประเมินหลังเปิดประเทศ 1 พ.ค.นี้ บอกภาคธุรกิจ “Go On” มั่นใจควบคุมสถานการณ์โควิด19ได้ มี 3 พอพร้อมรับมือ นำไทยกลับคืนสู่ “ซูเปอร์เพาเวอร์” ย้ำไม่ได้โม้
เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2565 ที่ศูนย์การค้าไอคอนสยาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “แนวนโยบายการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์ไทย” ในการเปิดงาน MICE DAY 2022:ไมซ์ไทย ก้าวสู่วันอันยิ่งใหญ่ตอนหนึ่งว่า จากนี้ไปน่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดีของประเทศไทย ซึ่งมีความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด19 ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถเปิดประเทศได้กว้างขึ้น ทำให้ต่างชาติและคนไทยสามารถเดินทางสัญจรได้ทั่วโลกมากขึ้น ตั้งแต่ 1 พ.ค.นี้เป็นต้นไป ซึ่งได้มีการเตรียมพร้อมประเมินสถานการณ์ทุกอย่างได้เป็นอย่างดี ถ้ามีเหตุใดก็ตามมีองคาพยพที่เพียงพอบริการแก่ผู้ที่อยู่ในประเทศและผู้ที่เดินทางเข้า มา
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)เปิดประเทศไทยด้วยมาตรการ 3 พอ คือ มียาและเวชภัณฑ์พอ หมอรวมถึงบุคลากรสาธารสุขทุกแขนงพอและมีเตียง สถานพยาบาลพอ ที่จะให้การดูแลหากมีวิกฤตการณ์ที่นอกความคาดหมาย แต่ทุกอย่างก็ผ่านการประเมินมาแล้ว โดยโรคโควิด19 ปัจจุบันถ้ายังคิดว่ายังต้องกลัวแล้วจนต้องมากนั่งนับมีคนติดเชื้อวันละเท่าไหร่ ก็ไม่ต้องทำอะไร ซึ่งที่ผ่านมาไม่ว่าประเทศใดก็ตามที่ใช้มาตรการเข้มข้นขนาดไหน โควิดเป็น0 ปิดประเทศ หรือกักตัว 3-4 สัปดาห์ สุดท้ายก็ต้องเปิด และก็ไม่สามารถป้องกันการระบาดของโรคโควิดได้
“ต้องทราบธรรมชาติโรคโควิด19 ที่ผ่านประสบการณ์มา 2 ปีกว่า ซึ่งจากรายงานสถานการณ์ทุกวันในตอนนี้ เน้นไม่ให้มีคนป่วยหนักมาก จนต้องใช้ไอซียู ใช้เครื่องช่วยหายใจ การรักษามีความยุ่งยากซับซ้อน และการเสียชีวิต โดยพยายามควบคุมให้อยู่ในมาตรฐานที่เสียชีวิตในอัตราที่ทางการแพทย์ยอมรับได้”นายอนุทินกล่าว
ทุกวันนี้มีการรายงานเสียชีวิตประมาณ 120-130 คน ถ้าไม่จำแนกออกมาคนอาจจะยังกลัวว่าเทียบกับที่อื่นแล้วยังมีการเสียชีวิตมาก จึงต้องแยกจำแนกว่า ตายจากโควิดหรือตายพร้อมการติดโควิด ซึ่งเดิมคนไข้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุพบติดโควิด ก็ต้องรายงานตายจากโควิด ปัจจุบันพยายามแยก เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลมากสุดว่าอยู่กับโควงิดอย่างไร ไม่ต้องไปยุติกิจกรรมอื่นๆที่เสริมสร้างรายได้ให้ตัวเองและครอบครัว
“ถ้าอยากได้ตัวเลขสวยๆก็ล็อกดาวน์ ซึ่งสามารถทำได้ กฎหมายเปิดกว้าง แต่ทำแล้วประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัส จึงพยายามเปิดกว้างมากที่สุด แต่ต้องมีความพร้อมและเพียงพอในสิ่งที่ให้การดูแลหากเกิดสถานการณ์เกินความคาดหมาย จะได้ป้องกันความปลอดภัยประชาชนได้ โดยหากเปิดประเทศแล้วได้ผล ก็จะเปิดให้ได้กว้างมากขึ้น ให้มีความสมดุลด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ”นายอนุทินกล่าว
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ถ้าประเทศไทยOpen Up โดยเฉพาะหลังโควิด เชื่อว่าโลกทั้งโลกต้องให้ความสนใจประเทศไทย ที่ใครอยากมาเที่ยวต้องเลือกประเทศไทย เพราะป่วยเมื่อไหร่มีรพ.ให้การรองรับ ประเทศไทยให้การดูแลนักท่องเที่ยวที่ดี แม้แต่ในรพ.รัฐ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ประเทศไทยจะเป็นแหล่งดึงดูดอย่างหนึ่ง ที่ทำให้คนมาไทย จากนี้เป็นต้นไปถึงเวลาทำให้ประเทศไทยกลับคืนสู่ซูเปอร์เพาเวอร์
“ขอให้ Go on ภาคธุรกิจจะเดินหน้าเรื่องใด ทำเลย ให้ความมั่นใจว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จะสามารถทำให้ดำเนินชีวิตเหมือนสมัยก่อนที่จะมีโควิดหรือดีกว่า เพราะมีความพร้อมหลายด้านและมีแรงดึงดูดที่ทำให้คนสนใจใช้ประเทศไทย เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการพักผ่อน เพื่อสุขภาพ เหล่านี้ไม่ได้โม้ เพราะไม่กล้าโม้ ต้องเกิดก่อนแล้วมาพูด ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ส่วนที่เป็นแผนก็ทำต่อไป ทุกอย่างดำเนินไป ภาครัฐ เอกชน และความร่วมมือปะชาชนก็เต็มที่”นายอนุทินกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังยกเลิกTest and Goแล้วภาคเอกชนเรียกร้องให้ยกเลิกThailand pass นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วน Thailand pass คงไปเน้นพิสูจน์ว่าได้รับวัคซีนโควิด19แล้วหรือไม่ อาจจะต้องใช้วิธีแบบสากลที่ใครเข้ามาประเทศไทย ขอให้มีวัคซีนพาสปอร์ตสามารถตรวจสอบได้ แต่ขอให้เป็นตามขั้นตอน และประเมินสถานการณ์อีกครั้ง เพราะเมื่อทำแล้วไม่อยากจะถอยหลังอีก โดยวัคซีนพาสปอร์ตต้อง 3 เข็มเป็นอย่างน้อย เพราะเป็นยุคบูสเตอร์โดสแล้ว เพราะ 2 เข็มประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อก็ลดลง อย่างไรก็ตาม ยังจะต้องมีประกันสุขภาพก่อนเข้ามาในประเทศไทย
ถามย้ำว่ามีแนวโน้มที่จะยกเลิก Thailand pass ในเร็ววันนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นสิ่งต้องทำทุกอย่างให้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด เพียงแต่ต้องเลือกจังหวะเวลาให้เหมาะสมเมื่อไหร่ อย่างไร ก็ต้องพร้อม เมื่อเปิดแล้วมีปัญหาก็ดูแลได้ควบคุมสถานการณ์ได้ ก็จะไม่มีปัญหาในระยะต่อไป