ศธ.พร้อมเปิดเทอมแบบ on-site 17 พ.ค.นี้ เน้นโรงเรียนปฏิบัติมาตรการ 6-6-7

ศธ.พร้อมเปิดเทอมแบบ on-site 17 พ.ค.นี้ เน้นโรงเรียนปฏิบัติมาตรการ 6-6-7

ศธ.พร้อมเปิดภาคเรียน 2565 แบบ On-Site 17 พ.ค.2565 เน้นให้โรงเรียนปฏิบัติตามมาตรการ 6-6-7 เร่งฉีดวัคซีนให้นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา ประเมินความพร้อมโรงเรียนผ่าน Thai Stop Covid Plus

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้สั่งการเรื่องการเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ในวันที่ 17 พ.ค.นี้ โดยได้กำชับให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ปกครองในการเปิดภาคเรียนใหม่อย่างปลอดภัย  ผ่านมาตร 6-6-7

ประสานการฉีดวัคซีนให้แก่นักเรียนอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะ 5-11 ปี รวมถึงโรงเรียนจะต้องตรวจสอบสภาพอาคารเรียนให้มีความพร้อมไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า ระบบประปา และห้องเรียน

นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมเนื้อหาจัดการเรียนการสอนจะต้องเติมเต็มเสริมศักยภาพของผู้เรียน พร้อมแต่งตั้งอาสาสมัครการศึกษา ทำหน้าที่คล้ายอาสาสมัครหมู่บ้าน หรือ อสม. ทำหน้าเอกซเรย์เด็กตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อติดตามนำกลับเข้าระบบการศึกษา

 

  • มาตรการเปิดเรียน On-Site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด-19

นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มาตรการเปิดเรียน On-Site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด-19 ในสถานศึกษา ได้วางมาตรการรองรับเปิดเรียนออนไซต์เต็มรูปแบบเนื่องจากขณะนี้การติดเชื้อลดลงและกำลังขับเคลื่อนไปสู่การเป็นโรคประจำถิ่น

เน้นย้ำ 4 มาตรการสำคัญคือ

1. เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมอย่างน้อย 60 % ทั้งเข็มพื้นฐานและเข็มกระตุ้น

2.ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหารือศูนย์อนามัย โรงเรียนประเมินความพร้อมผ่านระบบ Thai Stop Covid Plus ต้องผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่า 95%

3.ปรับการตรวจ ATK จากเดิมตรวจทุก 3-5 วัน เหลือเพียงตรวจเฉพาะเมื่อมีอาการหรือมีความเสี่ยง 

4.ย้ำการจัดทำแผนเผชิญเหตุกรณีพบการติดเชื้อในเด็ก

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์ติดเชื้อในเด็กต่ำกว่า 19 ปีภาพรวมตั้งแต่ 1 เม.ย.65 ติดเชื้อ 13.7% เมื่อเทียบกับผู้ติดเชื้อรายใหม่แต่ละวัน ส่วนเสียชีวิตไม่มาก 

เมื่อดูการฉีดวัคซีน เด็กมัธยมศึกษาฉีดเข็ม 1 และเข็ม 2 ไม่น้อยกว่า 70% แต่เข็มกระตุ้นยังต้องเร่งรัดเพราะฉีดไม่ถึง 6 % ส่วนเด็กประถมศึกษา 5-11 ปี ฉีดเข็ม 1 ครอบคลุม 53% เข็ม 2 ยังต้องเร่งรัดเพราะฉีดเพียง 13 % 

 

  • เร่งฉีดวัคซีนให้นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา

ทั้งนี้ มาตรการเตรียมพร้อมเปิดเรียนออนไซต์สำหรับโรงเรียนประจำ เน้นมาตรการ Sandbox Safety zone in School กรณีเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ให้เปิดเรียนปกติ โดยป้องกันตนเองครอบจักรวาล ประเมิน Thai Save Thai (TST) เว้นระยะห่างในห้องอย่างน้อย 1 เมตร กรณีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้จัดควอรันทีนโซน จัดการเรียนการสอนในนั้นเป็นเวลา 5 วัน จากนั้นให้สังเกตอาการอีก 5 วัน

กรณีได้รับวัคซีนครบตามกำหนดและไม่มีอาการไม่แนะนำให้กักตัว และตรวจ ATK ในวันที่ 5 และ 10 กรณีเป็นผู้ติดเชื้อ ให้หารือหน่วยบริการสาธารณสุขในการแยกกักตัวในโรงเรียน หากไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย ให้จัดการเรียนการสอนตามความเหมาะสม เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร งดร่วมกลุ่ม

สำหรับโรงเรียนไป-กลับ กรณีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ให้เรียนตามปกติ ป้องกันตนเองครอบจักรวาล ประเมิน TST เว้นระยะห่างในห้องอย่างน้อย 1 เมตร กรณีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหากยังไม่ได้รับวัดซีน ไม่มีอาการ แนะนำให้กักตัวเองเป็นเวลา 5 วันและติดตามอาการหลังจากนั้นอีก 5 วัน

กรณีได้รับวัคซีนครบและไม่มีอาการไม่ต้องกักตัว ให้เรียนได้โดยให้ตรวจ ATK วันที่ 1 , 5 และ 10 หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ สถานศึกษาจัดให้เรียนตามความเหมาะสม เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร หากเป็นผู้ติดเชื้อให้แยกกักตัวที่บ้าน หรือพิจารณากักตัวที่โรงเรียน

โดยการพิจารณาของคณะกรรมการสถานศึกษาและหน่วยงานสาธารณสุข และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จัดรูปแบบการเรียนการสอนตามความเหมาะสมโดยเฉพาะกลุ่มไม่มีอาการ  ย้ำเปิดเรียนปกติแต่ให้ทำความสะอาดห้องเรียน สถานศึกษา

 นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้ย้ำศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัดวางแผนนำเด็กเข้ารับวัคซีนตามเกณฑ์กำหนด  ทั้งนี้ศธ.และสธ.มีความพร้อมเต็มที่กับการเปิดภาคเรียนออนไซต์วันที่17 พ.ค.อย่างมาก มีการดำเนินตามมาตรการเคร่งครัด