รู้จักประโยชน์ “คาร์ซีท” ที่พ่อแม่ควรรู้ พร้อมวิธีเลือก-ติดตั้งให้ถูกต้อง

รู้จักประโยชน์ “คาร์ซีท” ที่พ่อแม่ควรรู้ พร้อมวิธีเลือก-ติดตั้งให้ถูกต้อง

หลังเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก ให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปีต้องนั่ง “คาร์ซีท” ห้ามอุ้มนั่งตักเด็ดขาด ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 2,000 บาท ชวนรู้ประโยชน์ของคาร์ซีทมีอะไรบ้าง? ควรเลือกซื้อและมีวิธีติดตั้งที่ถูกต้องอย่างไร?

หลังจากเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งบัญญัติให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วันนับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป โดยสรุปใจความหลัก คือ

กำหนดให้เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือ “คาร์ซีท” หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ และเด็กที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง

จากกฎหมายดังกล่าว กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชวนผู้ปกครองมารู้จักประโยชน์ของ “คาร์ซีท” ให้มากขึ้น

  • "คาร์ซีท" ช่วยป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุได้อย่างไร?

มีข้อมูลจาก รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผอ.ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ได้อธิบายไว้ในรายการพบหมอรามา เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2560 ว่า

ผู้โดยสารทุกคนไม่ใช่เฉพาะเด็กเมื่อนั่งอยู่ในรถยนต์แล้วต้องมีระบบยึดเหนี่ยวให้ยึดไว้กับที่นั่ง เพราะถ้าหากเกิดอุบัติเหตุเช่น รถวิ่งมาด้วยความเร็ว 80 ก.ม./ช.ม. หากเกิดการชนความเร็วจะลดเหลือ 0 ทันที ทำให้สิ่งที่อยู่ในรถยนต์จะยังคงเคลื่อนตัวต่อไปด้วยความเร็วเท่าเดิม

“ดังนั้นหากเด็กที่อยู่ในรถคันดังกล่าวไม่ได้นั่งคาร์ซีท ตัวเด็กจะพุ่งออกไปด้านหน้าด้วยความเร็วสูง ทำให้เด็กกระแทกกับโครงสร้างด้านหน้าของรถหรืออาจถึงขั้นทะลุออกกระจกรถไปนอกตัวรถรศ.นพ.อดิศักดิ์ สรุป

  • ข้อดีของการติดตั้ง "คาร์ซีท" ให้เด็ก

เด็กปลอดภัยระหว่างเดินทาง : คาร์ซีทช่วยเพิ่มความปลอดภัยระหว่างการเดินทาง เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ คาร์ซีทจะช่วยลดระดับความรุนแรงและลดการบาดเจ็บของเด็กได้

การติดตั้งที่ปลอดภัย : เนื่องจากคาร์ซีทส่วนใหญ่ ไม่มีอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม มีเพียงการใช้เข็มขัดนิรภัยที่ติดมากับรถยนต์ในการล็อกคาร์ซีทให้ติดอยู่กับที่ ซึ่งผู้ปกครองต้องลองเขย่าดูว่ามีความแน่นหนาพอหรือยัง

คาร์ซีทติดตั้งได้ตามช่วงอายุ : การติดตั้งคาร์ซีทให้เหมาะสมกับช่วงอายุของเด็กถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ เพราะจะช่วยให้เด็กปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงทำให้เด็กนั่งหรือนอนได้สบายตัวมากขึ้นตลอดการเดินทาง

มีการออกแบบที่ดี : คาร์ซีทมีการออกแบบที่ใส่ใจถึงสรีระของเด็ก เนื่องจากเด็กแต่ละวัยจะมีสรีระแตกต่างกัน ทั้งความสูง ขนาดตัว ความยาวของแขนและขา ดังนั้นจึงช่วยประคองตัวเด็กและเพิ่มความปลอดภัยได้ดี

ใช้วัสดุที่อ่อนโยนต่อผิวเด็ก : เบาะทำมาจากผ้าออร์แกนิคจะมีความนุ่ม อ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือคัน ไม่ระคายเคืองเหมาะกับผิวบอบบางของเด็กแรกเกิด  และสามารถถอดมาซักได้ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของเด็ก

 

  • วิธีการติดตั้งคาร์ซีทตามช่วงอายุ

0-1 ขวบ ติดตั้งที่เบาะหลัง หันหน้าเข้าเบาะ ปรับเอนแบบนอน

1-4 ขวบ ติดตั้งที่เบาะหลัง หันไปด้านหน้าตามปกติ ปรับเอนแบบกึ่งนั่งกึ่งนอน 

4-7 ขวบ ติดตั้งที่เบาะหลังแบบเพิ่มบูสเตอร์ ซึ่งก็คืออุปกรณ์ที่ทำให้เด็กที่โตขึ้นยังสามารถใช้คาร์ซีทอันเดิมได้ไม่ต้องเปลี่ยน หันไปด้านหน้าตามปกติ

 

  • การติดตั้งคาร์ซีทที่ถูกต้อง 

ทารก ควรนั่งแบบ Rear Facing 
สถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา แนะนำว่าทารก ควรนั่งแบบ Rear Facing หรือติดตั้งคาร์ซีทโดยหันหน้าไปทางด้านหลัง จนกว่าจะอายุ 2 ขวบ หรือความสูงและน้ำหนักถึงเกณฑ์ เพราะคอของทารกยังไม่แข็งแรง

ไม่ควรติดตั้งคาร์ซีทที่เบาะด้านหน้า
เนื่องจากหากเกิดอุบัติเหตุ การทำงานของถุงลมนิรภัยจะทำให้เด็กเป็นอันตรายได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจึงควรเป็นการติดตั้งที่เบาะด้านหลัง

รัดเข็มขัดอย่างถูกต้อง
ความสำคัญอีกข้อหนึ่งของคาร์ซีทคือ การรัดเข็มขัด หลังจัดให้เด็กนั่งเรียบร้อยแล้ว ต้องระมัดระวังในการคาดเข็มขัดอย่างถูกวิธี และไม่ควรปล่อยให้สายคาดหลวม เพราะจะไม่ช่วยปกป้องเด็กจากอุบัติเหตุ เข็มขัดไม่ควรหลวมเกินสอดนิ้วได้นิ้วเดียว สายคาดอกควรคาดอยู่บนอก และอุปกรณ์ต่าง ๆ ควรอยู่ในที่ที่ถูกออกแบบมา

อ่านคู่มือก่อนติดตั้ง
การติดตั้งคาร์ซีทอาจเป็นเรื่องยากควรอ่านและปฏิบัติตามคู่มืออย่างเคร่งครัด หรือจะให้เจ้าหน้าที่ผู้ขายมาช่วยติดตั้งให้ที่รถก็ได้เช่นกัน สุดท้ายเพื่อความปลอดภัยให้ลองขยับเบาะหลังการติดตั้ง หากติดตั้งได้ถูกต้อง คาร์ซีทไม่ควรขยับได้เกิน 1 นิ้วในทุกทิศทาง

ควรเลือกเบาะให้เหมาะกับวัย
การเลือกซื้อคาร์ซีท ควรยึดจากการออกแบบว่าเหมาะกับวัย ส่วนสูง และน้ำหนักของเด็กหรือไม่ และควรเปลี่ยนเมื่อเด็กโตเกินวัยนั่งเบาะเก่า และเด็กทารกก็ควรนั่งในที่นั่งสำหรับทารกโดยเฉพาะ

หากซื้อของมือสองต้องระวัง
คาร์ซีทมีอายุใช้งานส่วนใหญ่อยู่ที่ 6 ปี แต่หากมีงบประมาณจำกัดอาจซื้อคาร์ซีทมือสอง ซึ่งในการซื้อคาร์ซีทมือสองต้องตรวจของให้ถ้วนถี่ ว่ามีส่วนใดแตกหัก บุบสลาย รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะมากับคาร์ซีทว่าอยู่ครบหรือไม่ เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับความปลอดภัยของเด็ก

จะเห็นได้ว่า "คาร์ซีท" นั้นมีประโยชน์ต่อเด็กและสามารถใช้งานได้นานหลายช่วงอายุ รวมถึงสร้างความสบายใจให้กับผู้ปกครองเวลาจำเป็นจะต้องพาลูกหลานออกไปข้างนอกด้วยรถยนต์ส่วนตัว

และที่สำคัญสามารถช่วยชีวิตเด็กได้ยามเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ แม้ว่าคาร์ซีทอาจจะเป็นสินค้าที่มีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบกับความปลอดภัยของเด็กแล้วถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

------------------------------------

อ้างอิง : การติดตั้งคาร์ซีท, ประโยชน์ Car Seat