"หมอยง"ยันฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นmRNA ตามหลังวัคซีนเชื้อตาย ได้ผลดี
"หมอยง" ระบุผลการศึกษาในต่างประเทศ ยืนยันฉีดวัคซีน mRNA ตามหลังวัคซีนเชื้อตาย ได้ผลดี ชี้การให้วัคซีนต่างชนิดกัน จะไปช่วยเสริมกัน และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันกว้างมากขึ้น
วันนี้ (16 พ.ค.2565) ศ.นพ. ยง ภู่วรวรรณ หรือ "หมอยง" หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบว่า มีรายงานการศึกษามาสนับสนุนการศึกษาของเราเป็นจำนวนมาก ดังจะเห็นรายงานล่าสุดที่เผยแพร่ในวารสาร Nature Communication
โดยนักวิจัยชาวสวีเดน ที่ทำการศึกษาร่วมในหลายประเทศ (พิมพ์ใน Nature) และใช้ตัวอย่างน้อยกว่าเราเป็นจำนวนมาก (อ่านรายละเอียดได้จาก https://www.nature.com/articles/s41467-022-30340-5)
รวมทั้งการศึกษาอีกหลายแห่งได้ผลเช่นเดียวกัน เป็นการยืนยันซึ่งกันและกัน
- ยันฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นmRNAได้ผลดีหากฉีดหลังวัคซีนเชื้อตาย
จากรายงานของเราที่รวบรวมและอยู่ระหว่างการพิจารณาลงพิมพ์ในวารสาร ดังจะเห็นได้ในรูปที่แสดงให้ดู เฉพาะในส่วนของการกระตุ้นภูมิต้านทาน B เซลล์
แต่ในความเป็นจริงเราทำการศึกษาหมดอย่างละเอียด ที่ลงพิมพ์ในวารสาร Journal of Infectious Disease ได้ผลดีกับสายพันธุ์ โอมิครอน ด้วย
จากข้อมูลที่สรุปมาจะเห็นได้ชัดเจนว่าการให้วัคซีนเบื้องต้นเป็นเชื้อตาย เช่น ชิโนแวก ชิโนฟาร์ม และเข็มกระตุ้นด้วย pfizer ที่ 5 ถึง 7 เดือน หลังเข็ม 2 ได้ผลไม่แตกต่างกัน กับการฉีดวัคซีน pfizer 3 เข็ม
การให้วัคซีนต่างชนิดกัน จะไปช่วยเสริมกัน และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะการกระตุ้นในระบบ T เซลล์ ได้ผลแบบเดียวกัน เท่าเทียมกันกับคนที่เคยติดเชื้อมาก่อน แล้วกระตุ้นด้วยวัคซีน mRNA (ข้อมูลการศึกษาในสวีเดน)
ที่ผ่านมาประเทศไทยเราเสียโอกาสนี้ไปมาก อย่างไรก็ตามการให้ในเด็กเราก็เชื่อว่าได้ผลแบบเดียวกัน
- ยอดฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในไทย
ทั้งนี้ ยอดฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.2564- 14 พ.ค. 2565 สะสมทั้งหมด 135,590,107 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 สะสม 56,515,295ราย คิดเป็น 81.3 % ของประชากร เข็มที่ 2 สะสม 51,957,050 ราย คิดเป็น 74.7 %ของประชากร เข็มที่3 สะสม 27,117,762 ราย คิดเป็น39.0% ของประชากร