กลาง มิ.ย. เตรียมนำร่องถอด "หน้ากากอนามัย" บางพื้นที่ ยกเว้น 3 กรณี
ปลัด สธ. กำชับสาธารณสุขในพื้นที่เตรียมพร้อมประชาชนอยู่ร่วมกับ "โควิด-19" หลังเข้าสู่การเป็น "โรคประจำถิ่น" เล็งปรับคำแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยใน 3 กรณี นำร่องปรับบางพื้นที่ ราวกลางเดือนมิถุนายน 65
วันนี้ (24 พฤษภาคม 2565) ที่ โรงแรมไดมอนด์ พลาซ่า จ.สุราษฎร์ธานี นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค นอกสถานที่ ครั้งที่ 3 ประจำปีงบประมาณ 2565 ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานสำคัญ รวมทั้งการเตรียมการของพื้นที่เพื่อรับการเปลี่ยนผ่านโรคโควิด-19 เข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น โดยระบุว่า ปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้นต่อเนื่องและเร็วกว่าฉากทัศน์ที่คาดการณ์
มั่นใจว่าจะเข้าสู่การเป็น โรคประจำถิ่น ตามเวลาที่วางแผนไว้ หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่จึงต้องมีการบริหารด้านสังคมร่วมด้วย โดยนำร่องกิจกรรมในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับ "โควิด-19" อย่างปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจกับประชาชน
นำร่องบางพื้นที่ สวมหน้ากาก 3 กรณี
ทั้งนี้ ประมาณกลางเดือนมิถุนายน จะนำร่องปรับคำแนะนำในบางพื้นที่ ให้สวม หน้ากากอนามัย ใน 3 กรณี คือ
1.กลุ่มผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยง 608
2.อยู่ในสถานที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก
3.กิจกรรมที่มีคนร่วมกันจำนวนมาก
พร้อมทั้งขอให้สื่อสารไปถึงประชาชนให้ทราบการปฏิบัติตนและเรียนรู้ที่จะอยู่กับโรค โควิด-19 ต่อไป
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องกัญชาทางการแพทย์ วันที่ 9 มิถุนายน นี้ จะครบกำหนด 120 วัน ที่การปลดล็อกกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติดมีผลบังคับใช้ ประชาชนสามารถปลูกโดยไม่ต้องขออนุญาต เพียงแต่จดแจ้งผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของ อย. โดยจะมีกฎหมายเพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้กัญชาเสรีในทางที่ผิด
ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมาธิการ จึงต้องใช้กฎหมายด้านสาธารณสุขที่มีอยู่มาควบคุมกำกับก่อน เช่น พ.ร.บ.การสาธารณสุข ขณะเดียวกันก็ให้ทุกหน่วยงานช่วยกันส่งเสริม และสนับสนุนให้ประชาชนได้ใช้ในครัวเรือน และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพในการต่อยอดทางเศรษฐกิจ
โดยในวันที่ 10-12 มิถุนายน 2565 จะมีการจัดมหกรรม “360 องศา ปลดล็อกกัญชา ประชาชนได้อะไร” ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อตอกย้ำ และสร้างความมั่นใจในการปลูกและใช้ประโยชน์จากกัญชาด้วย
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์