"สมุนไพร" 3 เกลอ เครื่องเทศรสเผ็ดร้อน เสริมเกราะป้องกันโรคฤดูฝน
แพทย์แผนไทย ชูเครื่องเทศ "สมุนไพร" 3 เกลอ ปรุงเมนูอาหารดูแลสุขภาพนักเรียนกลุ่มเด็กเล็ก เสริมเกราะป้องกันช่วงฤดูฝน พร้อมเผยวิธีการทำทิงเจอร์ข่า เตรียมรับมือรักษาโรคน้ำกัดเท้า
นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่า ประเทศไทยได้เข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้ว ซึ่งจะก่อให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่ายในโดยเฉพาะนักเรียนกลุ่ม เด็กเล็ก ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยในช่วงฤดูฝนหรือวสันตฤดู ผู้คนมักจะเกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวกับธาตุลม เช่น เป็นไข้หวัด ไอ จาม วิงเวียนศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และท้องอืดท้องเฟ้อ ฯ
เครื่องเทศสมุนไพร 3 เกลอ
สมุนไพรที่ใช้ดูแลสุขภาพในช่วงฤดูฝน จะเป็นกลุ่มสมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อน เช่น เครื่องเทศสมุนไพร 3 เกลอ (กระเทียม รากผักชี และพริกไทย) ซึ่งสมุนไพรดังกล่าว จะมีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหย มีสรรพคุณ
- ช่วยขับลม
- บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
- ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี
- บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- บรรเทาอาการหวัด
โดยเฉพาะนักเรียนกลุ่มเด็กเล็ก หากพ่อแม่ผู้ปกครองนำเครื่องเทศสมุนไพร 3 เกลอ มาปรุงเป็นเมนูอาหารให้ลูกๆก่อนไปโรงเรียน จะเป็นการเสริมเกราะป้องกันโรคที่มักจะเกิดในช่วงฤดูฝนให้แก่ลูกๆได้
สำหรับเมนูอาหารที่แนะนำ ได้แก่
- ข้าวต้ม
- ต้มเส้น
- แกงจืดวุ้นเส้นหมูสับ
- ตับผัดกระเทียม
- อกไก่ทรงเครื่อง เป็นต้น
นอกจากเครื่องเทศ สมุนไพร 3 เกลอแล้ว ก็มีสมุนไพรรสเผ็ดร้อนอื่นๆ เช่น หอมแดง ขิง ข่า ตะไคร้ กะเพรา กระชาย แมงลัก ใบมะกรูด ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองก็สามารถนำมาปรุงเป็นเมนูอาหารต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน
“เหง้าข่า” บรรเทาโรคน้ำกัดเท้า
นอกจากนี้ ปัญหาที่ตามมาในช่วงฤดูฝน ประชาชนมักจะประสบกับปัญหาโรคน้ำกัดเท้า ถ้าหากดูแล ความสะอาดนิ้วเท้าและง่ามเท้าไม่ดีอาจก่อให้เกิดโรคน้ำกัดเท้าได้ จึงขอแนะนำสมุนไพร “เหง้าข่า” สรรพคุณช่วยรักษาอาการ โรคน้ำกัดเท้า
สำหรับขั้นตอนวิธีการทำยาสมุนไพรรักษาโรคน้ำกัดเท้าในรูปแบบทิงเจอร์เหง้าข่าไว้ใช้เอง ในครัวเรือน คือ
1.นำเหง้าข่าแก่มาล้างน้ำให้สะอาด ทุบพอแหลก ใส่ลงในโหลแก้ว
2.เติมแอลกอฮอล์ล้างแผลพอท่วม
3.ปิดฝาให้สนิท หมักไว้ 7 วัน หมั่นคน เช้า-เย็น
4.เมื่อครบกำหนด กรองเอาแต่น้ำ บรรจุลงในภาชนะ วิธีใช้ ใช้ทาบริเวณที่เป็นโรคน้ำกัดเท้า วันละ 2 ครั้ง เช้า - เย็น เมื่อหายดีแล้วให้ทาต่อเนื่องไปอีก 2 สัปดาห์ เพื่อให้โรคดังกล่าวหายขาด
นายแพทย์ขวัญชัย กล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากการดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพรที่กล่าวมาแล้ว ก็ควรหลีกเลี่ยงการตากฝน ถ้าหากมีเหตุจำเป็นที่ต้องตากฝนหรือลุยน้ำขัง ให้สวมรองเท้าบูท หลังจากตากฝนแล้ว ก็ควรอาบน้ำชำระร่างกาย เช็ดตัวให้แห้ง ดูแลความสะอาดของนิ้วเท้าและง่ามเท้าอยู่เสมอ ไม่ควรใส่เสื้อผ้าหรือถุงเท้าที่เปียกชื้น และควรรักษาความอบอุ่นของร่างกายให้เป็นปกติอยู่เสมอ
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ การแพทย์แผนไทยหรือการใช้ยา สมุนไพรในการรักษาโรค สามารถติดต่อได้ที่ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หมายเลขโทรศัพท์ 0 2149 5678 หรือช่องทางออนไลน์ที่เฟซบุ๊กและไลน์แอดกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
สำหรับวันที่ 6 – 10 กรกฎาคม 2565 นี้ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมกับภาคีเครือข่าย จะมีการจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 19 ณ ฮอลล์ 11 – 12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี