ปลดล็อก "กัญชา กัญชง" กฎหมายต้องชัดเจน
หลังปลดล็อก "กัญชา กัญชง" ควรออกกฎหมายให้ครอบคลุม ชัดเจน ไม่ควรซ้ำซ้อนทั้งในแง่หน่วยงานและข้อกฎหมาย
“สิ่งใดมีโทษมหันต์ สิ่งนั้นมีคุณอนันต์” โบราณว่าไว้ไม่มีผิด ดูอย่างสารเสพติดนั่นประไร ใครเผลอลองเข้านิดหน่อย คิดว่านิดเดียวคงไม่เป็นไร สุดท้ายหนีไม่รอด เสพติดทุกรายไป ที่ว่ามีคุณก็เช่นมอร์ฟีนก็มีฤทธิ์เป็นยาแก้ปวด
การเจ็บป่วยสมัยก่อนหรือกระทั่งสมัยนี้หากหนักเข้าก็ต้องใช้มอร์ฟีนเป็นตัวช่วย แต่วันนี้ต้องพูดถึงประโยชน์ของกัญชา กัญชง ที่ได้รับการปลดล็อกจากยาเสพติดเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ให้ประชาชนมีทางเลือกในการดูแลสุขภาพของตนเอง และเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเกิดการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวเนื่อง เรียกได้ว่าประโยชน์มีตั้งแต่ระดับบุคคลไปจนถึงภาคธุรกิจ
จะว่าไปแล้วกัญชา กัญชง ถูกใช้ในระดับชาวบ้านมานมนาน แต่การนำมาใช้ในกระแสหลักถูกพูดถึงช่วงไม่กี่ปีหลังตามเทรนด์โลก น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นับแต่รัฐบาลได้เริ่มมีนโยบายผลักดันการใช้ประโยชน์จากกัญชา
ด้านการแพทย์มีการกระจายยากัญชาไปยังสถานพยาบาลทั่วประเทศ และมีการจ่ายยากัญชาไปแล้ว 1,437,443 หน่วย มีผู้ป่วยที่ได้รับยากัญชาไปแล้วมากกว่า 109,008 ราย มียากัญชาในบัญชียาหลักแห่งชาติทั้งสิ้น 8 ตำรับ
ส่วนประโยชน์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีการให้อนุญาตผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยา ที่มีการนำกัญชาและกัญชงไปเป็นส่วนประกอบทั้งหมด 1,181 รายการ
อย่างไรก็ดี ความสับสนในตอนนี้อยู่ที่กัญชา กัญชง ถูกถอดออกจากบัญชียาเสพติด ความรู้สึกของผู้คนล่วงหน้าไปก่อนขณะที่ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ยังไม่ออก เกิดคำถามง่ายๆ แต่ชวนสับสนหลายข้อ เช่น สูบกัญชาในบ้านได้หรือไม่ หรือสูบแล้วโพสต์เฟซบุ๊กได้หรือไม่ จริงๆ แล้วนโยบายรัฐบาลไม่สนับสนุนการใช้กัญชา กัญชง ในทางมอมเมาหรือเพื่อสันทนาการ
ระหว่างรอกฎหมายเบื้องต้นคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชงมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 6 คณะ เตรียมความพร้อมให้สังคมในทุกมิติก่อนกฎหมายออกสภาทั้งด้านการแพทย์, การให้ความรู้เยาวชนและประชาชน, การผลิตทางเกษตรกรรม, ป้องกันการลักลอบนำเข้า, ด้านกฎหมาย และด้านสื่อสารประชาสัมพันธ์ เพื่อประมวลข้อมูลไปนำเสนอต่อกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง เพื่อให้เกิดการแปรญัตติที่รอบด้านให้กฎหมายที่กำลังจะออกมาสามารถดูแลการใช้กัญชากัญชงอย่างปลอดภัยและเกิดประโยชน์สูงสุด
ความสับสนของสังคมที่สื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียบ่งบอกให้ทราบว่า คนไทยอยากใช้กัญชา กัญชง มานานแล้ว แต่จะใช้ในทางที่ถูกหรือผิดกฎหมายเป็นตัวกำหนด ในเมื่อจะออกกฎหมายขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะก็ควรออกให้ครอบคลุม ชัดเจน ไม่ควรซ้ำซ้อนทั้งในแง่หน่วยงานและข้อกฎหมาย
หากห่วงว่าคนจะแห่สูบกัญชาจนกลายเป็นเรื่องมอมเมาก็ต้องยอมรับว่าช่วงแรกๆ ความอยากลองคงมีบ้างโดยเฉพาะวัยรุ่น แต่ถ้าเห็นว่าประโยชน์มีมากกว่ารัฐต้องกล้าไว้ใจประชาชน