เปิดปมกฎหมาย พริกทอดพิมรี่พาย วันผลิตล่วงหน้า 1 ปี ผิดหรือไม่
อย.ระบุกรณีพริกทอดพิมรี่พายติดวันผลิตล่วงหน้า 1 ปี อาจเป็น human error ในการผลิต ไม่เจตนา แต่เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.อาหาร ตรวจสอบเบื้องต้นพบเชื่อมโยง 2 โรงงาน
เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2565 ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นพริกทอดของพิมรี่พายที่มีการระบุวันที่ผลิตไว้เป็นปี 2566 ว่า การผลิตอาหารจะประกอบขึ้นจาก 2 ส่วนคือ ผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่าย ซึ่งอาจเป็นบริษัทเดียวกันก็ได้ หรือจะเป็นคนละบริษัทก็ได้ แต่ไม่ได้หมายรวมถึงพ่อค้าแม่ค้าที่ไปรับของมาขายต่ออีกที อย่างกรณีนี้ ตนมีความเห็นเบื้องต้นอย่างเป็นกลางว่า อาจไม่ได้ขึ้นโดยเจตนา แต่เกิดจากความเลินเล่อและไม่มีระบบ QC ของบริษัท หรือโรงงานผลิต เพราะหากคนจะติดฉลากวันที่ผลิตล่วงหน้าจริง ก็น่าจะล่วงหน้า 1 เดือน ซึ่งคงไม่มีใครตั้งใจติดวันผลิตล่วงหน้าเป็นปี หากมองว่าเป็นความผิดหรือไม่ ก็เป็นความผิด แต่ในเจตนาก็จะเป็น human error ในการผลิต
“หากจะเป็นความผิดก็จะเป็นมาตรา 6(10) ของพ.ร.บ.อาหาร ซึ่งเป็นโทษปรับสถานเดียว โทษปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท ทั้งนี้ หากคุณพิมรี่พายเป็นคนขายสินค้าแต่ไม่ใช่เจ้าของโรงงานผลิต เท่ากับว่าคุณพิมรี่พายเป็นผู้เสียหาย กรณีหากซื้อสินค้าคนอื่นมาขาย ก็จะไม่เกี่ยวกับคนขาย แต่ถ้าคุณพิมรี่พายไปจ้างโรงงานหนึ่งผลิตสินค้าให้เป็นแบรนด์ของตัวเอง ตรงนี้คุณพิมรี่พายจะต้องมีส่วนรับผิดชอบในฐานะผู้จัดจำหน่าย” ภก.วีรชัยกล่าว
ภก.วีระชัย กล่าวด้วยว่า การตรวจสอบเบื้องต้นของคุณพิมรี่พายพบว่ามีความเกี่ยวข้องในโรงงานผลิต 2 แห่ง คือ สมุทรสาครและกรุงเทพมหานคร(กทม.) ซึ่งเจ้าหน้าที่ อย.ส่วนกลาง ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเบื้องต้นแล้วในพื้นที่ กทม. โดยจะเข้าไปเก็บหลักฐานพยานที่เกิดขึ้นว่าพริกทอดที่อยู่ในสถานที่ผลิต หรือโกดังสินค้านั้นๆ เป็นไปตามในข่าวหรือไม่ ขณะเดียวกันก็ได้ประสานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครให้ตรวจสอบสถานที่ผลิตแล้ว
“กรณีที่มีผู้บริโภคพริกทอดคุณพิมรี่พายแล้วท้องเสีย จริงๆ แล้วต้องเรียนตามหลักวิชาการว่าการที่กินอาหารรสจัดก็มีโอกาสเกิดการระคายเคืองระบบอาหารได้ ก็อาจทำให้ท้องเสียได้ โดยเฉพาะพริกที่มีแคปไซซิน (capsaicin) ดังนั้นการที่ท้องเสีย เกิดได้จากการกินอาหารที่ระคายเคือง อาจไม่เกี่ยวข้องกับความสกปรกอย่างเดียว” ภก.วีระชัยกล่าว
เมื่อถามว่ากรณีสินค้าของพิมรี่พายมีผู้บริโภคแจ้งข้อผิดพลาดมามาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) จะต้องดำเนินการอย่างไรเพิ่มเติมหรือไม่ ภก.วีระชัย กล่าวว่า ต้องเรียนว่าการขายออนไลน์ ที่เป็นการไลฟ์สดในบ้าน หรือโกดังซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล จะต่างจากการตั้งร้านขายในที่สาธารณะ ซึ่งการขายในพื้นที่ส่วนบุคคลทางอย.จึงไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ จนกว่าจะมีหมายศาลที่มาจากผู้เสียหายจริงๆ มีข้อมูลและหลักฐานความผิดจริงๆ ไม่ใช่บัตรสนเท่ห์ เช่น ผู้ที่กินอาหารนั้นๆ แล้วมีอาการป่วยแล้วแพทย์ชี้ชัดว่าเกิดจากอาหารนั้นๆ
ถามว่าขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้จะต้องเรียกพิมรี่พายมาให้ข้อมูลหรือไม่ ภก.วีระชัยกล่าวว่า ต้องรอเจ้าหน้าที่ส่วนกลางลงไปตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐานพื้นที่จริงๆ ได้เพราะเราไม่สามารถใช้เพียงภาพในข่าวมาดำเนินคดีกับใครได้ ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงไปแล้ว ซึ่งหากมีห่อพริกทอดตามข่าวจริง ก็จะประมวลหลักฐานแล้วแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งเป็นโทษปรับสถานเดียว ทางอย.มีอำนาจในการดำเนินคดีได้เลย