เปิดเรียน2 เดือน"กรุงเทพคริสเตียน" ครู-นร.ติดโควิดเกือบ 700 คน สั่งปิด9วัน

เปิดเรียน2 เดือน"กรุงเทพคริสเตียน" ครู-นร.ติดโควิดเกือบ 700 คน สั่งปิด9วัน

เปิดเรียน 2 เดือน "โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน"พบครู-นักเรียนติดโควิด เกือบ 700 คน สั่งปิดเรียนออนไลน์ 9 วัน ด้าน ศธ.กำชับสถานศึกษาทุกแห่ง เฝ้าระวังโควิด พร้อมปฎิบัติตามแผนเผชิญเหตุ ย้ำนักเรียนติดโควิดหายดี กลับมาเรียนได้ปกติ โดยไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์

ตามที่ เว็บไซต์ BANGKOK CHRISTIAN COLLEGE  ของ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้ออกหนังสือประกาศ เรื่องการ เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียน โดยใบประกาศระบุว่า

โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เรื่อง การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนการสอนในช่วงวันที่ 11-19 ก.ค.2565 ด้วยตลอดระยะเวลา 8 สัปดาห์ที่โรงเรียนเริ่มเปิดทำการเรียนการสอนจนถึงปัจจุบัน สถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในโรงเรียนนั้น ยังปรากฏจำนวนนักเรียนและบุคลากรติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

กล่าวคือ มี นักเรียนติดเชื้อไปแล้วจำนวน 688 ราย และบุคลากรในโรงเรียนติดเชื้อไปแล้วจำนวน 70 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2565) ถึงแม้ว่าทางโรงเรียนได้มีมาตรการปิดห้องเรียนเป็นเวลา 5 วัน สำหรับห้องเรียนที่มีนักเรียนติดเชื้อมากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนนักเรียนเพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง

 

  • ปฎิทินเรียนออนไลน์ 9 วันหลังครู-นักเรียนติดโควิด

อีกทั้ง ยังพบว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ยอดผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนเป็นที่น่ากังวลถึงผลกระทบต่อการเรียนการสอน เนื่องจากมีนักเรียนและบุคลากรจำนวนหนึ่งต้องพักรักษาตัวที่บ้าน ดังนั้น ทางโรงเรียน จึงขอประกาศเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอน ในช่วงวันที่ 11-19 ก.ค.2565 ดังนี้

 2 วัน  ในวันจันทร์ที่ 11 ถึง วันอังคารที่ 12 ก.ค. 2565 ทำการเรียนการสอนรูปแบบออนไลน์ ทุกระดับชั้น ทุกหลักสูตร 

5 วัน ตั้งแต่วันพุธที่ 13 ถึง วันอาทิตย์ที่ 17 ก.ค. 2565 หยุดพิเศษตามประกาศของทางรัฐบาล

2 วัน  ในวันจันทร์ที่ 18 ถึง วันอังคารที่ 19 ก.ค.2565 ทำการเรียนการสอนรูปแบบออนไลน์ ทุกระดับชั้นทุกหลักสูตร 

จะเปิดทำการเรียนการสอนที่โรงเรียนตามปกติ ในวันพุธที่ 20 ก.ค. 2565

 

  • ศธ.กำชับสถานศึกษาเฝ้าระวังโควิด ปฎิบัติตามแผนเผชิญเหตุ

ด้านกระทรวงศึกษาธิการ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ต้นสังกัดของสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)กำชับไปยังสถานศึกษาทั่วประเทศให้เฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด-19 ในโรงเรียน โดยตรวจวัดอุณหภูมินักเรียนก่อนเข้าโรงเรียนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพี่อความไม่ประมาทและลดความเสี่ยงในการรับและแพร่เชื้อโควิด-19 ในโรงเรียน มีการเว้นระยะห่าง วมหน้ากากอนามัยในห้องเรียน ให้เด็กล้างมือบ่อยๆ จัดอาหารปรุงสุกใหม่และสถานศึกษาต้องหมั่นทำความสะอาดโรงเรียนสม่ำเสมอ

ขณะเดียวกันต้องขอความร่วมมือจากผู้ปกครองให้สังเกตุอาการของบุตรหลานของตนเองก่อนพามาโรงเรียน ครูต้องสังเกตอาการของเด็กนักเรียนในห้องเรียน ถ้าพบเด็กติดเชื้อให้ปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุป้องกันโควิด-19 ในสถานศึกษา ที่แต่ละแห่งได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ การเปิดโรงเรียนต้องเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติที่กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ เพื่อการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19  ซึ่งยังคงกำหนดให้มีการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างและการตรวจคัดกรอง รวมถึงโรงเรียน ต้องมีแผนเผชิญเหตุหากพบเด็กติดเชื้อ  ส่วนรูปแบบการเรียนการสอนให้โรงเรียนสามารถจัดการเรียนการสอนได้ทุกรูปแบบตามความเหมาะสม เช่น ในกลุ่มเด็กที่มีอาการป่วยสามารถมาเรียนได้ แต่ให้จัดห้องเรียนแยกและให้เรียนได้ตามปกติ

“ ขณะนี้เด็กนักเรียนอายุ 5-18 ปี ส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ และกระทรวงศึกษาธิการก็ได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุข อย่างต่อเนื่องในการจัดส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำนวยความสะดวกกรณีผู้ปกครองมีความประสงค์ให้นักเรียนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างทั่วถึง ส่วนกลุ่มเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ การเฝ้าระวังนอกจากที่สถานศึกษาแล้ว ต้องขอความร่วมมือจากผู้ปกครองดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง เพื่อไม่ให้ติดโรคและแพร่เชื้อสู่บุตรหลานด้วย

  • ย้ำไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์กลับเข้าเรียนหลังติดโควิด

รมว.ศธ. กล่าวต่อว่าเท่าทราบว่าขณะนี้มีโรงเรียนบางแห่ง เมื่อนักเรียนติดโรคโควิด-19 รักษาตัวเองหาย และกักตัวครบตามที่กำหนดแล้ว ทางโรงเรียนได้ขอใบรับรองแพทย์จึงจะให้นักเรียนกลับเข้าเรียนได้ตามปกติ  ทำให้นักเรียนต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อให้ได้ใบรับรองแพทย์มา เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้แก่นักเรียน

ดังนั้น การกลับเข้ามาเรียนที่โรงเรียนสามารถนำผลจากชุดทดสอบโควิด-19 หรือ Antigen test kit ที่แสดงผลผลตรวจเป็นลบ หรือ ไม่ติดเชื้อแล้วมาแสดงได้ หรือ ถ้ามีผลการตรวจ แบบ RT-PCR ก็สามารถนำมาแสดงได้ โดยไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ ให้สามารถกลับมาเรียนที่โรงเรียนได้เลย เพื่อให้เด็กได้เรียนต่อเนื่องไม่เกิดภาวะการเรียนรู้ถดถอย และให้เป็นกลุ่มเฝ้าระวัง ที่ต้องดูแลตามมาตรการของกระทรวงศึกษาธิการ ขณะเดียวกันดิฉันก็ได้ขอความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขในการฉีดวัคซีนให้แก่นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาที่ประสงค์จะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างทั่วถึง” นางสาวตรีนุช กล่าว.