GPO จัดส่งยาฟาวิพิราเวียร์ สู่หน่วยบริการ 25 ล้านเม็ด

วันนี้ (15 ก.ค. 2565) เภสัชกรหญิงศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรม ได้มีการบริหารจัดการสำรอง "ยาฟาวิพิราเวียร์" (Favipiravir)  เพื่อรองรับกับสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19  จำนวน 25 ล้านเม็ด  โดยได้ดำเนินการจัดส่งกระจายตามการจัดสรรให้กับหน่วยบริการแม่ข่ายตามการจัดสรรของศูนย์ PHEOC  อย่างต่อเนื่องทุกวันไม่เว้นวันหยุด

หลังจากนั้นหน่วยงานแม่ข่ายจะทำการบริหารจัดการและกระจายให้แก่หน่วยบริการลูกข่ายในแต่ละพื้นที่ต่อไป  ทั้งนี้ได้ดำเนินการ จัดส่งแล้วจำนวน 3.7 ล้านเม็ด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: "ยาฟาวิพิราเวียร์" ขาดแคลน ชมรมแพทย์ชนบท เผยอีกไม่กี่วันจะหมดประเทศ

                       "ติดโควิด" ระลอกนี้ "ประกันสังคม" "บัตรทอง" ต้องเข้าระบบการรักษายังไง?

                      สปสช. ผนึก 2 แอปฯ ดูแล "ผู้ป่วยโควิด-19" พบหมอออนไลน์ ส่งยาถึงบ้าน ฟรี

                     ศูนย์จีโนม รพ.รามาฯ คาด "โอมิครอน" BA.2.75 อาจระบาดเป็นสายพันธุ์หลัก

 

• องค์การเภสัชฯ ปรับแผนสำรองยาโควิดสอดคล้องความต้องการ

ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 21.3 ล้านเม็ด ทยอยส่งมอบพื้นที่ได้ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป รวมทั้งสั่งซื้อวัตถุดิบเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น 

นอกจากนี้ ได้ดำเนินการการจัดหา “ยาโมนูลพิราเวียร์”  (Molnupiravir) จำนวน 5  ล้านแคปซูล  ได้ส่งมอบให้ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข แล้วจำนวน 2 ล้านแคปซูล เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 อีก 3 ล้านแคปซูล อยู่ระหว่างจัดหา คาดว่าสามารถส่งมอบได้ไม่เกินปลายเดือนกรกฎาคม 2565

โดยช่วงปลายเดือนมิ.ย.มีปริมาณการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ อยู่ที่ราว 7 แสนเม็ดต่อวัน ขณะที่ช่วงสูงสุดเมื่อกลางเดือนมี.ค.อยู่ที่ 2.4 ล้านเม็ดต่อวัน  ยาโมลนูพิราเวียร์ ช่วงปลายเดือนมิ.ย.ราว 8.9 แสนเม็ดต่อวันเป็นช่วงสูงสุด และยาเรมเดซืเวียร์ ราว 1,400 ไวอัล ส่วนยาแพกซ์โลวิดนั้น ประเทศไทยจัดหาสำรองไว้ 50,000 คอร์สการรักษา ส่งมอบล็อตแรกเมื่อกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีการสั่งใช้ตามแนวทางของกรมการแพทย์

ทั้งนี้ องค์การเภสัชกรรม จะมีการติดตามและประเมินสถานการณ์ความต้องการใช้อย่างใกล้ชิด เพื่อทำการปรับแผนการสำรองทั้งการผลิตเองและจัดหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของการระบาดของโรคโควิด-19

 

• สถานการณ์ยาคงเหลือ รักษาโควิด-19

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ยาคงเหลือ ณ วันที่ 2 ก.ค. 2565 พบว่า

ยา Favipiravir 200 mg คงเหลือ7,196,268 (เม็ด) แบ่งเป็น องค์การเภสัชกรรม (EOC) 696.546 เม็ด กระทรวงสาธารณสุข  4,070,010 เม็ด หน่วยบริการเขตกรุงเทพมหานคร 2,429,712 เม็ด 

ยา Molnupiravir 200 mg  คงเหลือ 4,092,423 เม็ด  แบ่งเป็นองค์การเภสัชกรรม (EOC) 515,000 เม็ด หน่วยบริการเขตสุขภาพที่ 1-13  จำนวน  3,577,423  เม็ด 

ยา Remdesivir 100 mg   คงเหลือ 38,691   vial แบ่งเป็น องค์การเภสัชกรรม (EOC)3.430 vial หน่วยบริการเขตสุขภาพที่ 1-13   จำนวน  35.261 vial