"Wellness tourism" ฟื้นหลังโควิด คาดปี 67 มูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญ

"Wellness tourism" ฟื้นหลังโควิด  คาดปี 67 มูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญ

โมเดลธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการพักผ่อน ยูนิคอร์นใหม่ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคโควิด เพราะไทยมีศักยภาพในการส่งเสริมให้เป็นศูนย์รวมของ Wellness tourism อย่างมาก

กระแสการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Wellness Tourism เริ่มได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมาสัมผัสกับบรรยากาศและฟื้นฟูสุขภาพไปพร้อมๆ อีกทั้ง พบว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพใช้จ่ายต่อหัวมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปกว่า 58 % GWI ประเมินว่า Wellness Tourism จะมีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2567

 

เนื่องจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นิยมของนักท่องเที่ยวหลากหลายกลุ่มมาอย่างยาวนาน  “BDMS Wellness Clinic” ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟู จึงได้จับมือกับ “Celes Samui” เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จัดทำโครงการ “BDMS Wellness Clinic Retreat” เพื่อขับเคลื่อน BDMS Wellness Clinic และ Celes Samui สู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างเต็มตัวในอนาคต ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รวมทั้งกลุ่ม Silver age (ช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป)ที่จะเข้ามาพักผ่อนที่เกาะสมุย  

 

\"Wellness tourism\" ฟื้นหลังโควิด  คาดปี 67 มูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: 

 

  • คาด Wellness Tourism กลับมาเติบโตกว่า 20.9 %

 

 "นพ.ตนุพล วิรุฬหการุญ" หรือ หมอแอมป์ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) และบีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท (BDMS Wellness Resort) กล่าวว่าข้อมูลจากสถาบันโกลบอลเวลเนส (Global Wellness Institute: GWI) พบว่า มูลค่าของ Wellness Tourism ในปี 2561 มีมูลค่าสูงถึง 617,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2562 เติบโตขึ้นถึง 720,400 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 8.1% ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยมูลค่าโดยรวมของสาขาธุรกิจเวลเนสทั้งหมดที่เติบโตปีละ 6.4%

 

ปี 2563 มาตรการควบคุมโรคโควิด 19 ทำให้มูลค่าตลาดเล็กลง เหลือเพียง 435,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ตกลงมาถึง 39.5% และมีการคาดการณ์ว่า จะกลับมาเติบโตกว่า 20.9 % และมูลค่าสาขานี้จะทะลุ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2567 

 

\"Wellness tourism\" ฟื้นหลังโควิด  คาดปี 67 มูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญ

 

ปี 2565 ประเทศไทยถูกเลือกให้เป็น Wellness Destination อันดับ 2 ของโลก โดย Global Wellness Institute และถูกจัดให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่น่าเดินทางไปเยือนมากที่สุดในโลก อันดับ 4 จากผลสำรวจเกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยวระดับโลกของวีซ่า (Visa Global Travel Intentions Study) และเกาะสมุยยังถูกจัดให้เป็นอันดับ 4 ‘Best Islands’ โดยนิตยสาร DestinAsian อีกด้วย

 

เราอยากทำ BDMS Wellness Clinic ให้เป็นโมเดลธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการพักผ่อน ยูนิคอร์นใหม่ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคโควิด  เพราะไทยมีศักยภาพในการส่งเสริมให้เป็นศูนย์รวมของ Wellness tourism อย่างมาก ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคนทุกหน่วยงานและทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ นักวิชาการ ประชาชน เจ้าของพื้นที่หรือคนในท้องถิ่นนั้นๆ ตลอดจนกระทั่งภาครัฐบาล รวมไปถึงนโยบายต่างๆ ต้องร่วมกันคนละไม้คนละมือ ผลักดันให้ประเทศชาติเราเป็นที่น่าดึงดูด ให้คนทั้งโลกมาท่องเที่ยวและได้รับสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจกลับไป"นพ.ตนุพล กล่าว

 

\"Wellness tourism\" ฟื้นหลังโควิด  คาดปี 67 มูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญ

 

  • ท่องเที่ยวสุขภาพใช้จ่ายเฉลี่ย 5-6 หมื่น

 

นพ.ตนุพล กล่าวต่อไปว่า คนที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพใช้จ่ายต่อหัวมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป 58 % เฉลี่ย 5-6 หมื่นบาทต่อครั้ง การจะเป็น Wellness Tourism  ต้องมีพื้นฐานของ Medical จึงต่อยอดมาทำ Wellness สิ่งแวดล้อมการท่องเที่ยวโดดเด่น อาหารไทยที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ และการดูแลอย่างมืออาชีพ และค่าใช้จ่ายเมืองไทยถูกกว่าเมืองนอก ทั้งหมดนี้ สามารถทำ Wellness และดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามา กระตุ้นเศรษฐกิจทุกภาคส่วนของประเทศ

 

“การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อยากให้ทุกคนร่วมมือกันทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน คนท้องถิ่น ทุกคนได้ประโยชน์ เป็นภาพใหญ่ที่ต้องการกระตุ้นให้ไทย เป็น Wellness City และเป็นศูนย์กลางของโลกได้จะยิ่งดีหากใช้สุขภาพเป็นตัวตั้ง เขาจะต้องบินมาทุกปี เป็นการทำระยะยาวและก่อประโยชน์กับทุกคน”นพ.ตนุพล กล่าว

 

ด้าน อาริญา ปราสาททองโอสถ ประธานผู้บริหารโรงแรมเซเลส สมุย (Celes Samui) เผยว่า  Celes Samui เล็งเห็นความสำคัญของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่ปัจจุบันหันมาสนใจดูแลสุขภาพ ผสานกับการท่องเที่ยวที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเอง จึงมีเป้าหมายเดียวกันกับ BDMS Wellness Clinic นอกจากนี้ Celes Samui ยังมี Location พร้อมรองรับ Wellness Tourism อีกด้วย

 

\"Wellness tourism\" ฟื้นหลังโควิด  คาดปี 67 มูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญ

 

 

  • สุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟู

 

นักท่องเที่ยวที่เข้าพัก ณ Celes Samui จะได้ตรวจสุขภาพเฉพาะบุคคล รวมทั้งการบริการทางการแพทย์จากทีมงานมืออาชีพประกอบด้วย

1.การตรวจสุขภาพเชิงป้องกันก่อนการเกิดโรค (Preventive Check-up)

2.การตรวจระดับวิตามิน, แร่ธาตุ,ฮอร์โมน และสารต้านอนุมูลอิสระ (Vitamins, Minerals, Hormones and Antioxidants) 

3.การตรวจวัดความยาวเทโลเมียร์ (Telomere Length) เพื่อดูอายุเซลล์ (Biological Age)

4.การตรวจรหัสพันธุกรรม ตรวจความเสี่ยงมะเร็งและความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ (Genetic Test)

5.การตรวจระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (NK cell activity) 

6.การให้วิตามินทางหลอดเลือดดำ (IV Vitamin drip) 

7.การออกกำลังกายเฉพาะบุคคล (Personalized Exercise Programs) 

8.โปรแกรมเพื่อการผ่อนคลายความเครียดและดูแลสุขภาพจิต (Mental Wellness)

9.การดูแลและควบคุมน้ำหนัก (Weight management program)

10.โปรแกรมเพิ่มประสิทธิภาพการนอนหลับ (Sleep wellness)

พร้อมอาหารมังสวิรัติ อาหารวีแกน อาหารที่ปราศจากกลูเตน (Gluten-free diet) และปราศจากผลิตภัณฑ์จากนมสัตว์ (Dairy-free diet) หรืออาหารท้องถิ่นปราศจากสารเคมี (Organic food) และเครื่องดื่มสุขภาพ ที่นักกำหนดอาหาร (Dietician) ออกแบบไว้เพื่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

 

\"Wellness tourism\" ฟื้นหลังโควิด  คาดปี 67 มูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญ