ฝีดาษลิง อาการบ่งชี้สัญญาณติดเชื้อ 5 ข้อสำคัญที่ควรรู้
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (หมอธีระวัฒน์) โพสต์เฟซบุ๊กประเด็นโรค "ฝีดาษลิง" หรือ ฝีดาษวาร โดยพูดถึงอาการกับ 5 ข้อสำคัญที่ควรรู้
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (หมอธีระวัฒน์) ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กประเด็นโรค "ฝีดาษลิง" หรือ ฝีดาษวาร โดยพูดถึงอาการกับ 5 ข้อสำคัญที่ควรรู้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ฝีดาษลิง" โรคที่ยากต่อการควบคุมเมื่อเทียบกับ HIV
- เพิ่มเติม! ชายไทยรายแรกติด"ฝีดาษลิง" ย้ำเสี่ยงรีบรักษาหายได้
- ไทยเจอผู้ป่วย "ฝีดาษลิง" รายที่ 2 ใน กทม.
1.ป้องกันการแพร่ได้และไม่ได้จำเป็นต้องให้ยาทุกราย เพราะหายเองได้
2.รู้จักคู่สัมพันธ์ คู่นอน คู่รัก
3.ความยากของการวินิจฉัย ผื่น ตุ่ม แผลที่ผิวหนัง อยู่ในที่เร้นลับ อวัยวะเพศ ทวารหนักและเยื่อบุ ช่องก้น ลิ้น ช่องปาก รูทวาร (anogenital oropharynx tongue) ซึ่งบ่งบอกช่องทางการติดและไวรัสจะกระจายมาหน้า มือ ตัวทีหลัง หรือไม่มาก็ได้
ข้อดี คือ มีอาการไม่สบาย นำมาก่อน จะมีไข้หรือไม่มีก็ตาม โดยมีอาการ เหนื่อยล้า เซื่อง หมดแรง ปวดเมื่อย ปวดหัว
ทั้งนี้ โดยที่จะมีการติดต่อกัน ต่อเมื่อเริ่มมีอาการแล้ว โดยแพร่ทางละอองน้ำลายขณะสัมผัสใกล้ชิด แม้ยังไม่มีผื่นแผล ซึ่งเมื่อมีก็เป็นอีกช่องทางของการแพร่ได้ เมื่อมีการสัมผัสที่แผล
4.การสัมผัสใกล้ชิดกัน เป็นช่องทางติดต่อที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะขณะมีเพศสัมพันธ์
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะพบดีเอ็นเอ (DNA) ของไวรัสในน้ำอสุจิ ปัสสวะ เลือดได้ แต่ยังไม่สามารถยืนยันว่าเป็นไวรัสในรูปที่ติดต่อได้หรือไม่ ต่างจากน้ำที่ตุ่มน้ำ หรือหนองที่แผลที่ยังไม่าะตกสะเก็ด หรือละอองฝอยน้ำลายซึ่งติดต่อได้
5.การแพร่ให้คนในครอบครัวในบ้านเดียวกันยังค่อนข้างยากมาก ติดยากกว่าโควิด การให้ความรู้อย่างกระจ่างถึงอาการ ช่องทางการติด การระวังตัวเป็นสิ่งสำคัญและไม่ใช่เป็นเฉพาะในคนรักเพศเดียวกันหรือสองเพศ
(ประมวลจากรายงานในวารสารนิวอิงแลนด์วันที่ 21 กรกฎาคม
รายงานการติดเชื้อ 528 ราย ระหว่างวันที่ 27 เมษายนถึงวันที่ 24 มิถุนายนใน 16 ประเทศ)
การตรวจฝีดาษลิงมีในเครือข่ายห้องปฏิบัติการทั่วประเทศรวมทั้งโรงพยาบาลโรงเรียนแพทย์และของที่ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ และที่ต่างๆเพื่อประสานกันในการติดตามและเฝ้าระวังทั่วประเทศ
CR เฟซบุ๊ก หมอธีระวัฒน์