เหตุผล ที่ไม่ควรซื้อ "โมลนูพิราเวียร์" ยาต้านไวรัสมากินเอง แม้ติดโควิด-19

     เมื่อวันที่ 3 ส.ค.2565 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงกรณีการปลุกกระแสให้คนติดโควิด-19หาซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ที่เป็นยาต้านไวรัสมาใช้เองว่า แนวทางกรมการแพทย์ ที่ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาร่วมกันนั้น ถ้าเป็นผู้ติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง ร่วมกับมีปัจจัยเสี่ยงข้อใดข้อหนึ่ง เช่น อายุเกิน 60 ปี หรือรับวัคซีนไม่ครบ  แม้ไม่มีโรคร่วมอย่างอื่นก็สามารถเข้าเกณฑ์รับยาโมลนูพิราเวียร์ได้เมื่อพบว่าติดโควิด-19แล้ว แต่ทั้งหมดให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่ทำการรักษาผู้ป่วยแต่ละราย   เพราะเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยมากที่สุด

          “ยาโมลนูพิราเวียร์ ที่องค์การเภสัชกรรม(อภ.)นำเข้ามาขณะนี้ก็เพียงพอ เท่าที่ดูสต็อกก็มีการเบิกจ่ายตลอดเวลา เพิ่งคุยกับบริษัทเมอร์ค ชาร์ป แอนด์ โดม  หรือ MSD ผู้ผลิตยาต้นแบบโมลนูพิราเวียร์ อีเมลมาบอกว่าตอนนี้ภาคเอกชนก็มีการสั่งซื้อยานี้แล้วหลาย รพ.ด้วยเงื่อนไขเดียวกับกรมการแพทย์  ซึ่งน่าจะมีการซื้อและสั่งจ่ายโดยแพทย์ในภาคเอกชนด้วยโดยเก็บเงินคนไข้เอง”นพ.สมศักดิ์กล่าว 

    นพ.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า บริษัทได้แสดงความกังวลว่ายาที่มีในท้องตลาดในเมืองไทย บางเจ้าได้ลิขสิทธิ์ถูกต้อง ขณะที่บางโรงงานไม่ได้ลิขสิทธิ์ จึงไม่แน่ใจเรื่องคุณภาพของยา ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนซื้อยากินเอง เพราะยามีเพียงพอ เมื่อวานสำนักการแพทย์ กทม. ที่กรมการแพทย์เคยทำสแกน แจก จบ  ตอนนี้ กทม.ก็ทำแล้ว ใน กทม.ไม่มา รพ. สแกน แจก จบ ก็ยังได้ จะมีการส่งยาทางไปรษณีย์ ทางแกร็ปไปให้

            “ยาโมลนูพิราเวียร์ อย่าไปหาซื้อยากินเอง เพราะทั้งยาโมลนูพิราเวียร์ แพ็กซ์โลวิด ยังอยู่ภายใต้การอนุญาตให้ใช้ในภาวะฉุกเฉิน และเป็นยาควบคุมพิเศษโดยหลักการต้องสั่งโดยแพทย์ ต้องติดตามผลของอาการข้างเคียงทั้งหลาย  ซึ่งบริษัทเมอร์ค แสดงความกังวลมาว่าถ้าไม่มีการติดตามอาการข้างเคียงก็น่ากลัว เพราะเป็นยาที่เพิ่งผ่านการทดลองมายังไม่ถึงปี เป็นส่วนที่กังวลถึงสุขภาพของพี่น้องประชาชน”นพ.สมศักดิ์กล่าว

        ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า การจ่ายยาต้านไวรัสในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ต้องจ่ายให้ถูกโรค ถูกคน และถูกเวลา และต้องใช้อย่างเหมาะสม ยาโมลนูพิราเวียร์ มีความกังวลในการใช้ เนื่องจากมีผลข้างเคียงเรื่องการกลายพันธุ์ในสัตว์ทดลอง  เป็นเหตุที่ทำให้ไม่มีการจ่ายยานี้ให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี  หรือหญิงตั้งครรภ์ และการจ่ายยาต้องสมเหตุ