อาการปวดท้องกับแพทย์แผนจีน

มีใครบ้างที่ไม่เคยมีอาการปวดท้อง อาการปวดท้องเป็นอาการที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในสังคมปัจจุบันที่ใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ มีเวลาที่จำกัด ทำให้รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา รับประทานแบบเร่งรีบ เคี้ยวไม่ละเอียด เสร็จแล้วก็นั่งทำงาน ทำให้ลำไส้ไม่ค่อยได้มีการเคลื่อนไหว หรือรับประทานอาหารที่มีรสจัดมากไป รับประทานอาหารในปริมาณมากหรือน้อยเกินไป ก็อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องได้

ในทางการแพทย์แผนจีนอธิบายว่า การที่เรามีอาการปวดท้อง มักเกิดจากการทานอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะหรืออาหารที่มีฤทธิ์เย็น หรือการที่ได้รับอากาศที่เย็นเข้าไปในร่างกาย แล้วไป กระทบที่บริเวณกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารเกิดความผิดปกติ ทำงานได้น้อยลง หรืออาจเกิดจากกระเพาะอาหารพร่องหรือมีเลือดลมปราณติดขัด ไหลเวียนไม่สะดวก ทำให้เกิดอาการ ปวดท้องขึ้น อาจมีอาการอึดอัด แน่นท้อง เรอเปรี้ยว พะอืดพะอม อาเจียน ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาการไม่ย่อย หรือท้องผูกร่วมด้วย

แพทย์จีน นทภัค เชี่ยวเวช จาก AMC Clinic ให้ข้อมูลว่า ทางการแพทย์จีนเชื่อว่าทุกสิ่งมีพลัง ที่เรียกว่า “ชี่” เป็นพลังลมปราณผลักดันให้อวัยวะต่างๆ ทำงานประสานกันอย่างเป็นระบบ และสมดุล การฝังเข็ม คือ การแทงเข็มลงไปยังจุดฝังเข็มต่างๆ ตามร่างกาย ซึ่งอยู่บนเส้นลมปราณ โดยใช้หลักการเพื่อเป็นการแก้ไขการไหลเวียนเลือดลมปราณที่ติดขัด ปรับการทำงานของอวัยวะ ต่างๆ ให้อยู่ในภาวะสมดุล และกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพื่อกำจัดเหตุปัจจัยที่จะก่อให้เกิดโรคต่อร่างกายออกไป

การรักษาก็จะเริ่มจากการซักประวัติ ปวดจากสาเหตุอะไร ปวดแบบไหนบริเวณไหน ปวดมานานเท่าไหร่ ซึ่งการซักประวัตินี้จะทำให้รู้ถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต และการรับประทานอาหาร ของผู้ป่วย หลังจากนั้นก็ทำการแมะ(จับชีพจร) ดูการทำงานของอวัยวะต่างๆ ทำให้ทราบถึงอาการและระดับของโรคได้แน่ชัดมากขึ้น ต่อมาคือการดูลิ้น แบ่งออกเป็นดูตัวลิ้นและฝ้าที่อยู่บนลิ้น ซึ่งจะ ทำให้ทราบถึงสภาวะของโรค

สุดท้ายคือการฝังเข็มตามจุดฝังเข็มหลัก ได้แก่ จงหว่าน จู๋ซานหลี่ เน่ยกวาน กงซุน และคาเข็มทิ้งไว้ 20-30 นาที อาจจะมีการเพิ่มจุดฝังเข็มอื่นๆ ได้อีกตามอาการที่คนไข้เป็น ผลการรักษา นั้นจะขึ้นอยู่ที่คนไข้แต่ละคน บางคนอาจฝังเข็มแค่ครั้งเดียวเห็นผลแล้ว แต่บางคนอาจต้องฝังเข็มหลายครั้งจึงจะเห็นผล ซึ่งส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาหนึ่งคอร์ส หรือประมาณ 10 ครั้ง

การฝังเข็มจะเป็นการรักษาภายในโดยทำจากภายนอก เป็นการรักษาแบบองค์รวม โดยเน้นที่การปรับสมดุล และแก้ไขเลือดลมปราณที่ติดขัด ไหลเวียนไม่สะดวก เมื่อร่างกายมีความ สมดุลแล้ว เลือดลมปราณไม่ติดขัด ไหลเวียนสะดวก อาการปวดท้องก็จะดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยปรับสมดุลให้ทุกระบบของร่างกายอีกด้วย

ข้อแนะนำเพื่อหลีกเลี่ยงอาการปวดท้อง คือ การเลือกรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ รับประทานอาหารสด เน้นอาหารพวกผักสด ผลไม้ รับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์และอาหาร หวานให้น้อยลง เนื่องจากย่อยยาก งดทานอาหารประเภทปิ้ง ทอด ย่าง อาหารรสจัด เครื่องดื่มมึนเมา บุหรี่ พร้อมกันนี้จะต้องมีการดำเนินชีวิตที่ดี ไม่เครียดเกินไป ไม่หักโหมทำงาน ออกกำลังกาย เป็นประจำ

ที่สำคัญคือ ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งการพักผ่อนเป็นสิ่งที่จำเป็นและป้องกันโรคได้อย่างดี เพราะช่วงเวลานอนเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้ฟื้นฟูและรักษาโรคภายในตนเอง เพียงเท่านี้คุณ ก็ลดอาการเสี่ยงปวดท้องได้