Let Them See Love
การบริจาคดวงตาเพื่อให้โอกาสแก่ผู้ที่สูญเสียดวงตาให้กลับมามองเห็นอีกครั้งนั้น ถือเป็นการทำกุศลที่ยิ่งใหญ่
การบริจาคดวงตาเพื่อให้โอกาสแก่ผู้ที่สูญเสียดวงตาให้กลับมามองเห็นอีกครั้งนั้น ถือเป็นการทำกุศลที่ยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังเป็นการให้ทานที่เชื่อกันว่าได้บุญมากมาย
หลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าจำนวนผู้บริจาคดวงตาจะเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ขอรับบริจาคการบริจาค จึงเป็นที่มาของแนวคิดในโครงการ Let Them See Love ปีที่8 ซึ่งศูนย์รับบริจาคอวัยวะและศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทยร่วมกับทรูคอร์ปเรชั่น พยายามส่งเสริมคุณค่าแห่งการให้ด้วยการชวนคนไทยบริจาคอวัยวะและดวงตา ในเดือนกุมภาพันธ์นี้
ความหวังของคนตาบอด
ปัจจุบันยังมีผู้ป่วยที่รอการเปลี่ยนกระจกตาอยู่มากถึง 8,623 ราย แต่จากสถิติในปีที่ผ่านมา ศูนย์ดวงตาได้รับดวงตาบริจาคจากผู้เสียชีวิตเพียง 729 ดวง และมีผู้ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาเพียง 671 รายเท่านั้น
สำหรับสถิติการบริจาคอวัยวะในปีที่ผ่านมานั้น มีผู้บริจาคที่อยู่ในภาวะสมองตายที่สามารถบริจาคอวัยวะได้เพียง158รายและสามารถนำอวัยวะไปปลูกถ่ายเพื่อช่วยชีวิตได้ทั้งสิ้นเพียง 376 ราย และนำลิ้นหัวใจไปช่วยเหลือผู้ป่วยได้ 65 รายเท่านั้น ขณะที่ผู้ป่วยที่รอการปลูกถ่ายอวัยวะมีจำนวนมากขึ้นถึง 4,081 ราย
ผศ. พญ.วิลาวัณย์ พวงศรีเจริญ หัวหน้าหน่วยกระจกตา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ บอกว่า ปัจจุบันคิวการรอผ่าตัดเปลี่ยนดวงตายาวถึง 4ปีขึ้นไป ในช่วงเวลาดังกล่าวคุณหมอแนะนำให้คนไข้ คอยดูแลรักษาดวงตาตนเอง มาหาแพทย์ตามนัดทุกครั้ง ยกตัวอย่างโรคต้อหิน ถ้าไม่ได้รับการรักษาต่อเนื่องตาจะบอด รวมทั้งโรคจอประสาทตาเสื่อมบางชนิด เบาหวานขึ้นจอตาเพราะเมื่อถึงเวลาที่จะผ่าตัดเปลี่ยนตาได้ทันที
“สำหรับผู้ที่บริจาคดวงตา ทันทีที่ญาติเสียชีวิตต้องรีบโทรแจ้งทางศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทยทันทีเพราะมีเวลาแค่ 6-12ชั่วโมงก่อนที่ตาจะเสื่อมสภาพ แต่ถ้าอยู่ในที่เย็นอาจมีเวลาถึง 24 ชั่วโมงในประเทศไทยมีจักษุแพทย์ที่สามารถเปลี่ยนกระจกตาได้ไม่ต่ำกว่า 100 คน ปัญหาจึงไม่ใช่จำนวนหมอไม่พอแต่ปัญหาอยู่ที่จำนวนดวงตาที่บริจาคไม่เพียงพอ "
นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่คนไข้ต้องระมัดระวัง หลังจากการผ่าตัดเปลี่ยนดวงตาก็คือ การดูแลตนเอง เพราะ ปัญหาใหญ่ก็คือการดูแลรักษาดวงตาที่ไม่ถูกวิธีของคนไข้ ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อ ดังนั้นจึงต้องหยอดยาเป็นประจำ มาตรวจสม่ำเสมอ ที่สำคัญหากมีความผิดปกติของดวงตาที่เปลี่ยนไปแม้แต่นิดเดียว เช่น ปวดตา ตาแดง ตามัวไม่ ต้องรอให้ถึงเวลานัดให้รีบมาหาแพทย์ทันที
ชุบชีวิตผู้รอคอย
ณปภาภัทร จันทร์เกตุ ลูกสาวที่บริจาคดวงตาคุณแม่ เล่าว่า แรงบันดาลใจในการบริจาคดวงตาแม่เนื่องจากช่วงที่แม่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเคยเห็นบัตรขอรับบริจาคดวงตาและตัวคุณแม่ของเธอก็บริจาคเลือดอยู่เป็นประจำ เมื่อเธอและครอบครัวได้สูญเสียคุณแม่ไปอย่างกะทันหัน ด้วยโรคหัวใจอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ทุกคนในครอบครัวต้องเผชิญกับการตัดสินใจครั้งใหญ่ ซึ่งหนึ่งชีวิตที่กำลังจะจากไป จะได้ต่อชีวิตให้กับอีกหลายคนที่รอคอย
“แม้แม่จะเสียชีวิตแล้วแต่ก็ยังสามารถให้ชีวิตใหม่กับคนอื่นได้อีกจึงปรึกษากับพ่อ น้องและญาติ ว่าจะบริจาคดวงแม่ให้กับทางศูนย์ดวงตาของสภากาชาดไทย ทุกคนเห็นดีด้วย จึงหาเบอร์โทรติดต่อให้มารับดวงตาเราเชื่อว่าการบริจาคดวงตาครั้งนี้ถือเป็นบุญกุศลยิ่งใหญ่ที่แม่จะได้รับและมั่นใจว่าแม่คงจะเห็นด้วยกับความคิดนี้เพราะเป็นการให้ชีวิตกับคนๆหนึ่งที่ไม่มีโอกาสเห็นได้กลับมาเห็นอีกครั้ง ขณะตนเองเวลาเจ็บตายังรู้สึกกระวนกระวายใจ กลัวตาบอด” ณปภาภัทร ในฐานะตัวแทนผู้ให้ดวงตา บอกว่า ตนอยากเชิญชวนให้ทุกคนบริจาคดวงตา หรืออวัยวะเพราะมีผู้ป่วยอีกมากกำลังรออวัยวะที่บริจาคเพื่อทำให้ชีวิตเขาเหล่านั้นดีขึ้นและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติจึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย หากเราเสียชีวิตไปโดยไม่ได้บริจาคร่างกายเพื่อช่วยผู้อื่น เพราะเมื่อตายไปร่างกายของเราไม่สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้
การตัดสินใจบริจาคอวัยวะของณปภาภัทรในครั้งนั้นนับเป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งเพราะเธอและแม่กลายเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่
กุ้งนาง ภูชุม ผู้ได้รับการบริจาคดวงตาจากแม่ของณปภาภัทร เล่าว่า เธอมีปัญหาตาแดงเรื้อรังมาตั้งแต่อายุ12 ปี รักษามานาน แต่ก็ไม่หายส่งผลให้ตาข้างขวาที่เคยมองเห็นเริ่มพร่ามัวจนมองอะไรไม่เห็น ชีวิตเหมือนกับตายไปครึ่งหนึ่งด้วยความที่เธอเป็นคนตาเห็นดีมาก่อนพอวันหนึ่งตากลับมองไม่เห็น จึงเกิดความรู้สึกเหมือนชีวิตไม่เหลืออะไรอีกแล้ว และไม่คิดว่าจะสามาถกลับมามองเห็นได้อีก แต่เมื่อได้รับการติดต่อจากโรงพยาบาลว่า มีผู้ใจดีบริจาคดวงตาก็รู้สึกดีใจมากเพราะไม่คาดหวังว่าจะมีโอกาสกลับมาเห็นอีกครั้งหลังจากผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาได้ประมาณครึ่งปีสายตากลับมามองเห็นได้ตามปกติ เธอ กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ขอบคุณผู้บริจาคที่เสมือนเป็นผู้ที่ให้ชีวิตใหม่กับเธอเพราะชีวิตที่ผ่านมาของเธอเหมือนตายไปแล้วได้มีโอกาสกลับมาเกิดใหม่ด้วยการมองเห็นอีกครั้ง
“ของแบบนี้หาซื้อกันไม่ได้ไม่ว่า คุณจะมีเงินมากมายขนาดไหนก็ตาม ” กุ้งนาง กล่าวทิ้งท้าย
.........................
สอบถามรายละเอียดได้ที่
• ศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทย โทร.081-836-4927 และ 0-2256-4039 - 40 หรือ www.eyebankthai.com
• ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย โทร.1666 และ 0-2256-4045 - 6 หรือ www.organdonate.in.th