เด็กแห่สมัครบัณฑิตพรีเมียม

ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน) ได้มีความร่วมมือภายใต้โครงการความร่วมมือภาครัฐและเอกชนเพื่อร่วมผลิตบัณฑิตพรีเมียม มีสถานศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 7 แห่ง มหาวิทยาลัยราชภัฏ 38 แห่ง มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม วิทยาลัยเชียงราย สถาบันเทคโนโลยียานยนต์มหาชัย และสถานศึกษาอาชีวศึกษา รวมกว่า 70 แห่งทั่วประเทศ เริ่มรับนักศึกษารุ่นแรก ปีการศึกษา 2562 นี้ เปิดสอนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง และปริญญาตรีใน 4 สาขา  ได้แก่ การจัดการนวัตกรรมการค้า , การตลาด , การจัดการธุรกิจค้าปลีก, เทคโนโลยีไฟฟ้า และ ด้านอาหารและเครื่องดื่มนั้น  ขณะนี้ได้รับรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการว่ามีนักเรียนให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก แต่ภาพรวมกำหนดเป้าหมายที่ 5,100 คน และ อนาคตจะเพิ่มจำนวนมหาวิทยาลัยมากขึ้น รวมถึงเพิ่มจำนวนนักศึกษาให้ถึง 10,000 คน

รมช.ศธ.กล่าวต่อว่า แนวคิดโครงการนี้ต้องการให้ภาคเอกชนมาร่วมกับภาคการศึกษาจัดการศึกษา เพื่อให้เด็กได้เรียนกับเครื่องไม้เครื่องมือใหม่ๆได้พัฒนาตามความต้องการของภาคเอกชน เรียนจบสามารถทำงานได้ทันที ไม่ต้องไปฝึกงานใหม่ โดยเด็กจะมาจาก 2 กลุ่ม คือ เด็กทั่วไป และเด็กจากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ มีฐานยากจน ขาดโอกาส หรือเป็นเด็กชนเผ่า ซึ่งทาง บ.ซีพี ออลล์ จำกัด จะสนับสนุนทุนการศึกษาให้กรณีเด็กทั่วไปจะสนับสนุน 70% ให้แก่สถานศึกษา แต่ถ้าเป็นเด็กที่มาจากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ สนับสนุนให้ 100% และเมื่อเรียนจบการศึกษาก็รับเข้าทำงานทันที ส่วนการคัดเลือกก็เปิดกว้างไม่ได้กำหนดผลการเรียนแต่จำนวนรับในแต่ละสาขาขึ้นกับความตกลงของแต่ละสถานศึกษา ซึ่งแต่แห่งได้มีการประกาศไว้ อย่างไรก็ตาม  ตรงนี้ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งให้แก่ภาคเอกชนต่างๆ ในการสร้างความร่วมมือกำหนดเป้าหมายการเรียนการสอน การร่วมบ่มเพาะทักษะสมรรถนะที่มีความจำเป็นร่วมกับสถานศึกษา ยังช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ และเงินทุนการศึกษาที่ได้รับถ้าเด็กรู้จักอดออมเรียนจบอาจจะมีเหลือเงิน เป็นทุนไว้ใช้หลังเรียนจบการศึกษาได้”ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าว

สำหรับความคืบหน้าโครงการบัณฑิตพันธุ์ใหม่ ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ในปีการศึกษา 2562 คาดว่าจะมีจำนวนมหาวิทยาลัยที่สมัครเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้น และขณะนี้มีการปรับแก้ร่างขอบเขตงาน (ทีโออาร์) ใหม่และจะประกาศเร็วๆนี้ โดยยังคงหลักการเดิม แต่ปรับแก้ไขในรายละเอียดบางประเด็นที่ได้นำบทเรียนของปีการศึกษา 2561 มาเป็นแนวทาง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องงบประมาณที่ปีที่ผ่านมาได้รับล่าช้าต้องของบกลาง ทำให้หลายมหาวิทยาลัยไม่กล้ารับเด็กส่งผลให้ยอดลดลงกว่าเป้าที่วางไว้ แต่ปีนี้ชัดเจนว่ารัฐบาลสนับสนุนเรื่องดังกล่าวและได้อนุมัติงบประมาณปี 2562 แล้ว 870 ล้านบาท จึงเชื่อว่าปีนี้มหาวิทยาลัยที่พลาดปีนี้จะเข้ามาร่วมมากขึ้นเพราะตอบโจทย์ภาคประกอบการแท้จริง ได้งบประมาณจำนวนมาก ถ้าเป็นหลักสูตรระดับปริญญาตรี อยู่ที่ ‪1.2-1.5 ‬แสนบาทต่อคนต่อปี ระยะเวลา 4 ปี หลักสูตรฝึกอบรมระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี อยู่ที่ 6 หมื่นบาทต่อหลักสูตร ถือว่าเป็นจำนวนมาก