ดัน 'ยากัญชา' เข้าบัญชียาหลัก-บัตรทอง

ดัน 'ยากัญชา' เข้าบัญชียาหลัก-บัตรทอง

ดัน "ยากัญชา' เข้าบัญชียาหลัก-บัตรทอง เตรียมเปิดให้บริการจ่ายยากัญชาทางการแพทย์ในวันที่ 19 ส.ค.นี้

เมื่อวันที่ 15 ส.ค.62 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สธ.เตรียมเปิดให้บริการจ่ายยากัญชาทางการแพทย์ในวันที่ 19 ส.ค.นี้ ว่า หลังจากเริ่มมีการจ่ายยากัญชารักษาโรคใน 19 โรงพยาบาล ทั้งในส่วนของแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทยแล้ว ก็จะมีการติดตามผลของการรักษาว่า ใช้ได้ผลหรือได้ผลดีหรือไม่ ถ้าหากว่าใช้ได้ผลดี เจตนาเดิมก็ยังคงอยู่ คือ การผลักดันเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ และระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แต่ย้ำว่าจะต้องเป็นเมดิคัล เกรด และว่าการใช้กัญชาทางการแพทย์จะต้องขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ว่าจำเป็นต้องใช้หรือไม่ สำหรับการผลิตยากัญชาทางการแพทย์แผนไทย ก็ต้องมาขออนุมัติสูตรก่อน ซึ่งก็ยังดำเนินการอยู่เรื่อยๆ ถ้าไม่มีสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพก็อนุมัติได้ ไม่มีปัญหา

ทั้งนี้ ในการประชุมเชิงปฏิบัติการการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาการแพทย์ (เวิร์กชอป) เมื่อวันที่ 14 ส.ค.มีการนำเสนอเรื่องแผนการผลิตยากัญชาในระยะเร่งด่วนให้ได้ 1 ล้านขวดตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธาณสุข โดยช่วงระยะเวลา 6 เดือนแรกจะผลิตได้ประมาณ 351,000 ขวด และจากนั้นจะผลิตให้ได้ 1 แสนขวดต่อเดือน โดยแบ่งออกเป็นสูตรดังนี้

1.สูตรทีเอชซีเด่น โดยองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ซึ่งมีแหล่งปลูกในโรงเรือนระดับเมดิคัลเกรด 140 ต้น จะผลิตให้ได้ 10,000 ขวดใน ส.ค.นี้ และผลิตให้ได้อีก 10,000 ขวดใน ธ.ค.2562 หรือผลิตให้ได้ 10,000 ขวดในทุก 4 เดือน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี จะผลิตจากของกลางได้ 8,000 ขวดใน ส.ค.นี้ และผลิตให้ได้ 150,000 ขวดในช่วง ก.ย. 2562 - ม.ค. 2563 เฉลี่ยเดือนละ 30,000 ขวด ส่วนการปลูกจำนวน 16 ต้น จะผลิตให้ได้ 2,800 ขวดใน พ.ย.นี้ อีกล็อตใน ก.พ. 2563 และผลิตให้ได้ 2,800 ขวดทุก 3 เดือน ส่วนของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จะผลิตจากของกลางให้ได้ 30,000 ขวดต่อเดือนตั้งแต่ ส.ค.นี้เป็นต้นไป

 

2.สูตรซีบีดีเด่น แบ่งเป็น รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร มี 3 แหล่งปลูก คือ กรีนเฮาส์ 150 ต้น จะได้4,200 ขวดแรกใน มี.ค. 2563 และจะได้ 4,200 ขวดในทุก 6 เดือน ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนปลูกด้วยกรีนเฮาส์ 1,000 ต้น จะได้ล็อตแรก 42,000 ขวดใน มี.ค. 2563 เช่นกัน และจะผลิตให้ได้ 42,000 ขวดในทุก 6 เดือน และการปลูกระบบปิดเพิ่ม 100 ต้น จะได้ล็อตแรก 4,200 ขวดในเม.ย. 2563 และได้ 4,200 ขวดในทุก 6 เดือน ส่วน อภ.ปลูกในโรงเรือน 140 ต้น ได้ 500 ขวดในส.ค.นี้ ซึ่งจะมีกำหนดจะส่งมอบให้ สธ.และกรมการแพทย์ในช่วงปลาย ส.ค.นี้ ล็อตต่อไปอีก 500 ขวดจะได้ใน ธ.ค.2562 เม.ย. 2563 และ 500 ขวดในทุก 4 เดือน

3.สูตรทีเอชซีต่อซีบีดี ในอัตราส่วน หนึ่งต่อหนึ่ง รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ปลูก 50 ต้น จะได้ล็อตแรก 1,600 ขวดใน มี.ค. 2563 และ 1,600 ขวดในทุก 6 เดือน ส่วน อภ.ที่ปลูกในโรงเรือน 140 ต้น จะได้ 3,500 ขวดใน ส.ค.นี้ ล็อตถัดไปได้ใน ธ.ค.2562 เม.ย. 2563 และทุก 4 เดือน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-ยูเอ็น จับตาวาทกรรม 'กัญชาเสรี'
-อนุสัญญายาเสพติด ตีกรอบไปไม่ถึง 'เสรีกัญชา'
-'กัญชา' รักษาโรค
-รายงาน: กัญชา ชีวิต และความหวัง