ฝากสพท.เน้นบริการจัดการแก้ปัญหาการศึกษา

ฝากสพท.เน้นบริการจัดการแก้ปัญหาการศึกษา

"รมว.ศึกษาธิการ" มอบนโยบาย สพท.ระบุปัญหาการศึกษาไทยอยู่ที่การบริหารจัดการ ย้ำทุกเขตร่วมมือต่อยอด ปรับปรุง ชี้การศึกษาไทยวาระแห่งชาติ ไม่ควรนิ่งเฉยกับปัญหาที่เกิดขึ้น ต้องทำงานเชิงรุกคิดวางแผนติดตาม ร่วมปิดช่องโหว่ทุจริตการศึกษาให้ได้ ศึกษาต้องพัฒนา

เมื่อวันที่ 4 ก.ย.62 ที่โรงแรมไดมอนพลาซ่า จ.สุราษฎร์ธานี สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ (สพท.) และรองผู้อำนวยการสพท. ทั่วประเทศ โดยนายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ได้เดินทางมาร่วมการประชุมสัมมนาพร้อมได้มอบนโยบายด้านการศึกษา ตอนหนึ่งว่าตลอดที่ได้มาดำรงตำแหน่งรมว.ศึกษาธิการ 1 เดือนครึ่ง พบว่า ปัญหาการศึกษาไทยอยู่ที่การบริหารจัดการ ซึ่งการขับเคลื่อนการศึกษาไทยไปสู่อนาคตต้องมีการต่อยอด และต้องการให้เขตพื้นที่การศึกษาทุกเขตร่วมมือในการต่อยอดและปรับปรุงการศึกษาไทย เพราะเรื่องการศึกษาไทยจะต้องเป็นวาระแห่งชาติ ดังนั้น อยากให้ผู้บริหารทุกคนวางโครงสร้างการบริหารจัดการให้แก่คนทำงานในรุ่นต่อไปด้วย เพื่อให้การขับเคลื่อนการศึกษามีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคทั้งการมีคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ศึกษาธิการภูมิภาค (ศธภ.) และ สพท.หน่วยงานเหล่านี้ทำงานทับซ้อนกัน เช่น มีปัญหาน้ำท่วมตนจะต้องถามข้อมูลตัวเลขโรงเรียนได้รับผลกระทบจากหน่วยงานไหนได้บ้างที่จะรู้ข้อมูลแบบเรียวไทม์ เป็นต้น

"ผมเจ็บปวดทุกครั้งเมื่อเห็นปัญหาการศึกษา โดยเฉพาะโครงการอาหารกลางวันนักเรียน ซึ่งเป็นการบริหารจัดการของเขตพื้นที่การศึกษาและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงไม่อยากให้ผู้บริหารยึดติดคิดว่าตัวเองเป็นผู้บริหาร และไม่ควรนิ่งเฉยกับปัญหาที่เกิดขึ้น ต้องทำงานเชิงรุกคิดวางแผนติดตามและประเมินการบริหารจัดการอาหารกลางวันของโรงเรียนตัวเองด้วย เพราะถึงปัญหาเรื่องอาหารกลางวันนักเรียนจะเกิดในจำนวนน้อยแต่ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ซึ่งผู้บริหารจะต้องใส่ใจปัญหาต่างๆให้มากขึ้น" นายณัฏฐพล กล่าวว่า

ทั้งนี้ โครงสร้างศธ.นั้น ภูมิภาคมีส่วนสำคัญซึ่งหลังจากนี้ ต้องมีการปรับโครงสร้าง การบริหารจัดการอย่างแน่นอน สำหรับเรื่องงบประมานของศธ.เป็นที่ทราบกันดีว่าศธ.ได้รับงบประมาณสูงสุดกว่ากระทรวงอื่นๆ แต่คิดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะเม็ดเงินเหล่านี้หากทุกคนนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการศึกษา เพราะงบประมาณคือส่วนหนึ่งของการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครูและนักเรียนทุกคน

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการศึกษาไทยเป็นอย่างมาก และมีหลายคนเฝ้ามองการทำงานของกระทรวงศึกษาธิการอยู่ ขณะเดียวกันเรื่องทุจริตของศธ.ก็มีถึง 30-40 เรื่อง ซึ่งสะท้อนว่าการบริหารจัดการของเรายังไม่ดีพอ และจะต้องร่วมปิดช่องโหว่ในจุดนี้ให้ได้ ดังนั้นผมจึงขอให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมและเดินไปพร้อมกับในการขับเคลื่อนการศึกษาไทยสู้ศตวรรษที่ 21 และใน1-3ปี จะต้องหาสิ่งใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา อย่างไรก็ตามถ้าทุกคนไม่อยากร่วมกันทำงาน ก็ทิ้งทุกคนแน่นอน เพราะการศึกษาต้องพัฒนา จะอยู่อย่างนี้ไม่ได้ และอย่าคิดว่ามาอยู่ในตำแหน่งนี้แค่ไม่กี่เดือน แต่จะอยู่ให้นานที่สุด เพราะผูกพันกับการศึกษาไทยและจะแก้ไขปัญหการศึกษาอย่างเต็มที่