ตามไปดู'กัญชา'สายพันธุ์ไทย“อิสระ 01 “ปลูกเชิงอุตสาหกรรม'แห่งแรกของอาเซียน'ที่ม.แม่โจ้
กัญชาสายพันธุ์ไทย“อิสระ 01“ที่ได้รับเมล็ดพันธุ์จากกรมการแพทย์ ปลูกที่ม.แม่โจ้เป็นการปลูกระดับอุตสาหกรรมแแห่งแรกของอาเซียน ภายในโรงเรือนสมาร์ทฟาร์ม 3,040 ตารางเมตรภายในพื้นที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติของ.แม่โจ้ จ.เชียงใหม่
โรงเรือนสมาร์ทฟาร์ม 3,040 ตารางเมตรภายในพื้นที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติของ.แม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ถูกเตรียมพร้อมเพื่อใช้เป็นสถานที่ในการปลูกกัญชาสายพันธุ์ไทย“อิสระ 01“ที่ได้รับเมล็ดพันธุ์จากกรมการแพทย์เป็นการปลูกระดับอุตสาหกรรมแแห่งแรกของอาเซียน
โดยใช้องค์ความรู้การปลูก “ระบบพืชอินทรีย์อัจฉริยะ”ที่ม.แม่โจ้มีอยู่และจะพัฒนาขึ้น ให้เหมาะสมกับการปลูกกัญชาในสภาพแวดล้อมของประเทศไทย ก่อนต่อยอดสู่การปลูกกลางแจ้ง โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกรมการแพทย์ องค์การเภสัชกรรม(อภ.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ปลูกกัญชาทางการแพทย์รวม 12,000 ต้น คาดว่ารุ่นแรกจะได้ผลผลิต คือ ดอกกัญชาประมาณ 2.4 ตัน ในราวเดือนก.พ. 2563 สามารถผลิตเป็นสารสกัดกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์ได้ราว 1 ล้านโดส เป็นแบบเกรดทางการแพทย์(Medical Grade)
ผศ.พาวิน มะโนชัย รักษาการแทนรองอธิการบดี ม.แม่โจ้ กล่าวว่า กัญชาที่ปลูกเป็นกัญชาสายพันธุ์ไทยอิสระ 01 ที่คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ ปลอดสารปนเปื้อน. และไม่ติดสิทธิบัตร และเตรียมขอจดสิทธิ์กับกรมวิชาการเกษตร โดยเป็นการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ ในโรงเรือนที่ได้มาตรฐานไอฟง( IFOAM) ซึ่งจะเป็นกัญชารุ่นแรก จากนั้นจะพัฒนาสายพันธุ์โดยนักวิจัยที่ได้รับอนุญาตถูกต้อตามกฎหมายแล้ว
ทั้งนี้กัญชาพันธุ์อิสระ 01 จะเก็บเกี่ยวได้หลังปลูก 4 เดือน กัญชา1 ต้นจะได้ดอกสด 200 กรัม รวมดอกสด 24,000 กิโลกรัม จากนั้นต้องอบแห้ง จะได้ 2,400 กิโลกรัม และในอนาคตเตรียมขยายปลูกนอกโรงเรือน และพัฒนาสายพันธุ์ให้แข็งแรงมากขึ้น เพื่อให้ชาวบ้านสามารถนำไปต่อยอดปลูกได้ในอนาคต
ขณะที่ ศ.อานัฐ ตันโช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ ม.แม่โจ้ อธิบายว่า การปลูก“ระบบพืชอินทรีย์อัจฉริยะ” เป็นไปตามการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practice :GAP) และระบบเกษตรอินทรีย์(Organic) ใช้ปัจจัยการผลิตอินทรีย์ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งโรงเรือนที่ใช้ปลูกกัญชาเดิมใช้ปลูกมะเขือเทศแบบอินทรีย์ ก่อนจะปลูกกัญชาได้มีการยุติการปลูกพืชเป็นเวลา 6 เดือนเพื่อเตรียมวัตถุดิบการปลูกกัญชา
ซึ่งใช้วัตถุดิบที่ม.แม่โจ้วิจัยมากกว่า 20 ปี เป็นปุ๋ยหมักธรรมชาติ ที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ทางเกษตร เช่น ต้นข้าวโพด ฟางข้าว เศษใบไม้ กิ่งไม้ เป็นต้น หมักทิ้งไว้ 3-4 เดือน ปลอดสารพิษและโลหะหนัก ใช้เพิ่มธาตุอาหารพืชและปรับปรุงโครงสร้างดิน และเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน มีธาตุอาหารพืชอินทรีย์สำหรับปลูกพืชกัญชา คือ ฟิตอะมิโน ช่วย บำรุงลำต้นและใบ บำรุงดินใบใหญ่สีเขียวมัน และใช้ ปุ๋ยมูลไส้เดือนดิน และ น้ำหมักมูลไส้เดือนดิน ช่วยบำรุงการเจริญเติบโตของพืช เร่งราก ดอกดก บำรุงดิน ละลายปุ๋ยที่ตรึงอยู่ในดิน
ระบบการปลูกในโรงเรือนแบบสมาร์ทฟาร์ม จะประกอบด้วย โรงเรือนเพาะกล้า โรงเรือนปลูกขนาดพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร โรงเรือนผึ่ง โรงเก็บผลผลิต มีระบบการให้น้ำ การควบคุมอุณหภูมิและความชื้น และระบบตรวจสอบโลหะหนัก โลหะหนัก แคดเมียม ตะกั่ว ปรอท ยาฆ่าแมลง และยาปราบศัตรูพืชตกค้าง มีค่าไม่เกินมาตรฐานที่กฏหมายกำหนด
สำหรับกัญชาสายพันธุ์ อิสระ 01 ศ.อานัฐ บอกว่า เป็นพันธุ์ไทยแท้ได้รับการวิจัยโดยรวบรวมตั้งแต่ ปี พ.ศ.2546 ทำการคัดเลือกตามขั้นตอนการปรับปรุงพันธุ์และส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.ตรวจหาสารได้สายพันธุ์ที่มีคุณลักษณะทางยา และเส้นใย มีอัตราส่วนจากการสกัดของสารทีเอชซี(THC) และซีบีดี (CBD) ใกล้เคียงกันเหมาะสมที่จะปลูกในสภาพสิ่งแวดล้อมของไทย ปลูกได้ทุกฤดูกาลตามสภาพการจัดการที่เหมาะสม สภาพดินร่วน ระบายน้ำได้ดีอุณหภูมิ 17-27 องศาเซลเซียส
“เมล็ดพันธุ์ที่ม.แม่โจ้ได้รับจากกรมการแพทย์ นำมาเพาะไม่ถึง 24 ชั่วโมงรากก็งอก เพาะวันนี้พรุ่งนี้ก็สามารลงดินได้ ภายใน 36 ชั่วโมงก็ได้ต้นงอก ซึ่งค่อนข้างเร็ว ใน 1 เดือนก็จะเห็นใบงอก สามารถปลูกได้ทั้งในโรงเรือนและกลางแจ้ง แต่ถ้าเป็นกลางแจ้งต้องเป็นสายพันธืไทย ทั้งนี้ พื้นที่ของม.แม่โจ้สามารถขยายพื้นที่ปลูกกัญชาแบบกลางแจ้งได้อีก 5-6 เท่า แต่ยังไม่ได้ดำเนินการเพราะยังไม่ได้รับอนุญาตให้ปลูกกลางแจ้ง”ศ.อานัฐกล่าว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องไม่ลืม คือ กัญชามีโทษที่ต้องระวัง และการจะปลูกได้นั้นต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษก่อน เพราะปัจจุบันกัญชายังถือเป็นสารเสพติด โดยออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท กดประสาท และหลอนประสาทในกรณีที่ใช้เกินกำหนดและไม่ถูกวิธี เพราะสารในกัญชาจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและสมองอย่างรวดเร็ว อาจทำให้เกิดโทษและอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้
เช่น ทำให้ผู้เสพรู้สึกตื่นเต้น ช่างพูด กระสับกระส่าย และหัวเราะตลอดเวลา ก่อนจะกดประสาททำให้มีอาการซึมเศร้า ง่วงนอน เวียนศีรษะ ปากแห้งหากเสพเข้าไปในปริมาณมาก ๆ จะหลอนประสาท ทำให้เห็นภาพลวงตา หูแว่ว ความคิดสับสน ควบคุมตนเองไม่ได้
ส่วนการที่จะให้ประชาชนปลูกกัญชาที่บ้านได้ 6 ต้นตามการหาเสียงของพรรคการเมืองนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) บอกว่า “จะยังไม่ดำเนินการ จนกว่าประชาชนจะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้กัญชาอย่างปลอดภัย และหากผลการใช้กัญชาในสถานพยาบาลที่เริ่มดำเนินการไปแล้ว แพทย์บอกว่าไม่โอเค ผลมันห่วย ก็พร้อมยกเลิกนโยบาย”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-เตือนพก 'น้ำมันกัญชา' เข้าประเทศ ถูกจับคดียาเสพติด
-คาดกม.ปลูกกัญชาบ้านละ 6 ต้นผ่านสภาปี 63
-'น้ำมันกัญชาสูตรเดชา' ล็อตแรกส่งถึงมือหมอโรงพยาบาลในโครงการวิจัย
-หนุนตั้งสถาบันพืชกัญชา ยกระดับหมอพื้นบ้าน