หอสมุดแห่งมธ.สู่เรียนรู้4.0 เแหล่งนวัตกรรมคนรุ่นใหม่
“การเรียนรู้ยุค 4.0 ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ผ่านสมาร์ทโฟนหรือโซเชียลมีเดีย ยังคงต้องมีห้องสมุด พื้นที่ที่สามารถเชื่อมต่อการเรียนรู้ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ทำให้ผู้คนออกจากโลกเสมือนจริงมาเจอกันเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นซึ่งกันและกัน”
การปรับตัวของห้องสมุดให้เท่าทันการเรียนรู้ยุค 4.0 สภาวะโลกร้อน และความยั่งยืน ผศ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่าขณะนี้มหาวิทยาลัยกำลังประสบปัญหาทั้งนักศึกษาน้อยลงทุกที่ ซึ่งเป็นเรื่องของโครงสร้างประชากร คนเกิดน้อย และคนอายุยืนมากขึ้น
เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่มีคนอายุ 60 ปี มากกว่าคนอายุ 15 ปี และอีกไม่เกิน 2 ปี คนแก่จะเพิ่มมากขึ้น เป็นสังคมที่มีคนแก่มากกว่าคนของวัยทำงาน และเป็นคนแก่ที่สุขภาพไม่ดี เพราะคนแก่ 50 % ป่วยเป็นโรค NCDs กินน้ำตาล เกลือ แป้งมากเกินไป
รวมถึงการมาของเทคโนโลยี 4.0 และปัญญาประดิษฐ์ ทุกคนใช้ชีวิตโดยอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีมากขึ้น ดังนั้น มหาวิทยาลัยและสถานที่ต่างๆ รวมถึงหอสมุดต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่
“สถานการณ์ในปัจจุบันที่อยู่ท่ามกลางภาวะโลกร้อน สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง เราทุกคนกำลังเผชิญเผชิญหน้ากับหายนะและการสูญพันธ์ครั้งใหญ่ ซึ่งการเรียนรู้และการลงมือร่วมกันแก้ไขปัญหา จะทำให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมถือเป็นประเด็นที่ผู้คนทั้งโลกให้ความตระหนัก อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development)” ผศ.ปริญญา กล่าว
หอสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กำลังมุ่งสู่ความเป็นหอสมุด 4.0 แห่งนวัตกรรมล้ำสมัย ใส่ใจคุณภาพบริการเพื่อนักศึกษาและสิ่งแวดล้อม พร้อมเป็นต้นแบบให้แก่ห้องสมุดทั่วประเทศ โดยเริ่มต้นจากภายในรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่สามารถส่งเสริมกระบวนการดังกล่าวสู่การก้าวหน้าพัฒนาอย่างยั่งยืน
แม้ว่าโซเซียลมีเดียมีผลต่อการใช้ชีวิตของผู้คนมากขนาดไหน แต่ “ห้องสมุด” ยังคงต้องมีในทุกสถาบันการศึกษา และไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแหล่งความรู้ ศึกษาค้นคว้าตำรา อ่านหนังสือเท่านั้น ต้องปรับโฉมเป็นห้องสมุดทันสมัย มีมัลติมีเดีย สื่อหลากหลายรองรับความต้องการ ไลฟ์สไตล์ของเด็กรุ่นใหม่ “หอสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ” จึงได้พัฒนาเป็นหอสมุดสีเขียว เพิ่มความทันสมัย ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยล่าสุดได้เปิด “ห้องประชุมกลุ่มย่อย (Study room) และนวัตกรรมบริการ” เพื่อเป็นพื้นที่การเรียนรู้ของเด็กยุค 4.0 ตอกย้ำความเป็นหอสมุดแห่งนวัตกรรมและความยั่งยืน ได้รับมอบใบรับรองระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ตามมาตรฐาน ISO14001:2015 จากบริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะหอสมุดที่ดำเนินงานโดยตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการสิ่งแวดล้อม พร้อมยกระดับองค์กรให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลมากยิ่งขึ้น
ผศ.เอกรินทร์ ยลระบิล ผู้อำนวยการหอสมุดแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่าการเป็นหอสมุดแห่งนวัตกรรมและความยั่งยืนด้วยมาตรฐานระดับสากล จึงนำระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐาน ISO14001:2015 เข้ามาบริหารควบคู่กับงานภายในองค์กร รวมไปถึงการสร้างความตระหนักในเรื่องของสิ่งแวดล้อมให้แก่คนรุ่นใหม่
การพัฒนาหอสมุดโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมตามรูปแบบ 4 ป. คือ 1.การปกป้องสิ่งแวดล้อม 2.การป้องกันมลพิษและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ที่จะเกิดจากกิจกรรมการดำเนินงานของหอสมุดฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อม 3.การปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ ตลอดจนข้อกำหนดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้านสิ่งแวดล้อม 4. ปรับปรุง พัฒนาระบบบริหารคุณภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนส่งเสริมให้บุคลากรมีความรู้ ความเข้าใจ และสร้างการตระหนักรู้ เพื่อให้เกิดความร่วมมือที่ดีในการบริหารคุณภาพและสิ่งแวดล้อม
“ปรับปรุงและพัฒนานวัตกรรมบริการต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักศึกษา ด้วยการเพิ่มจำนวนห้องและปรับปรุงห้องประชุมกลุ่มย่อย (Study room) ของหอสมุดป๋วย อึ๊งภากรณ์ พร้อมปรับปรุงสภาพแวดล้อม วัสดุ อุปกรณ์ภายใน ”ผศ. เอกรินทร์ กล่าว
พร้อมทั้งมีระบบเทคโนโลยีเพื่อการช่วยเหลือ (Assistive Technology) ในการจองห้องสมุดผ่านการใช้เสียง สำหรับนักศึกษาที่มีข้อจำกัดด้านการมองเห็น และเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มนักศึกษาที่มีความบกพร่องทางร่างกาย เพื่อตอบสนองต่อการเข้าถึงบริการของนักศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน สนับสนุนในการพัฒนาศักยภาพและกระบวนการเรียนรู้ให้เกิดขึ้น เป็นการยกระดับความความพึงพอใจของผู้ใช้บริการให้สูงยิ่งขึ้น