คุณภาพอากาศภาคเหนือพุ่งเกิน 340 เที่ยงวันนี้

คุณภาพอากาศภาคเหนือพุ่งเกิน 340 เที่ยงวันนี้

แอพพลิเคชั่นดัง AirVosual จัดให้เชียงใหม่ติดอันดับคัณภาพอากาศแย่ที่ 1 ของโลกวันนี้ด้วยค่าสูงเกือบ 240

สถานการณ์ฝุ่นควันภาคเหนือยังคงพุ่งสูงต่อเนื่องจากวานนี้ โดยการจัดคุณภาพอากาศและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากกรมมลพิษเช้านี้ พบพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ถึง 4 พื้นที่แล้ว โดยในเที่ยงวันนี้ พื้นที่ ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พบค่าคุณภาพอากาศ พุ่งสูงที่ 341 และยังมีอีก 3พื้นที่คือ อำเภอเมืองเชียงราย, อำเภอเมืองพะเยา และอำเภอเมือง แม่ฮ่องสอน ที่มีค่าสูงถึง 211, 211, และ 252 ตามลำดับ (ค่าฝุ่นฯ 221, 79, 91, 126 มคก./ลบ.ม. ตามลำดับ)

โดย คพ.ได้รายงานคุณภาพอากาศภาพรวมช่วงเช้าวันนี้ว่า “มีค่าอยู่ในเกณฑ์ดี – มีผลกระทบต่อสุขภาพ” มีค่าฝุ่นฯ ระหว่าง 31 - 221 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.)

แอพพลิเคชั่นแสดงผลคุณภาพอากาศ AQI ของเชียงใหม่แย่ที่สุดอันดับ 1ของโลกด้วยค่าที่ 239 ในขณะที่แอพฯท้องถิ่นอย่าง Air CMI ที่แสดงผลละเอียดรายพื้นที่ระดับอำเภอแสดงค่าฝุ่นฯ หลายๆอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ที่สูง อาทิ อกเภอเชียงดาว 445 มคก./ลบ.ม, อำเภอแม่แตง 355 มคก./ลบ.ม.

158382101397

ทั้งนี้ สถานการณ์ฝุ่นควันขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ในเขตภาคเหนือมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นอีกครั้งในอาทิตย์นี้ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษกล่าวว่า เป็นผลเนื่องมาจากการเผาป่าและการเผาไร่จากประเทศเพื่อนบ้านซึ่งจะเห็นจัดความร้อนขึ้นทางท่าขี้เหล็กประเทศพม่า เป็นต้น

โดยภาคเหนือเผชิญกับความรุนแรงจากฝุ่น PM 2.5 เป็นระลอกนับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมเป็นต้นมา เลื่อมกับกรุงเทพมหานครที่เริ่มผ่อนคลายลง โดยข้อมูลจากแอพพลิเคชั่น AirVisual ที่วัดและแสดงผลค่าฝุ่นละอองทั่วโลก แสดงผลสอดคล้องกับข้อมูลที่ประมวลโดยกรมควบคุมมลพิษ

ซึ่งข้อมูลจากแหล่งที่มาทั้งสอง พบว่า ค่าฝุ่นควันขนาดเล็ก PM 2.5 ขยับสูงขึ้นเลื่อมกับค่าฝุ่นละอองในกรุงเทพมหานคร โดยในช่วงกลางเดือนมกราคม ค่าฝุ่น PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมงใน 9 จังหวัดภาคเหนือ จะอยู่ระหว่างค่าที่ต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าที่สูงกว่า 50 มคก./ ลบ.ม. เล็กน้อย โดยสภาพคุณภาพอากาศโดยทั่วไป จะถูกระบุว่า อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก จนถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม ค่าฝุ่น PM 2.5 เริ่มเพิ่มขึ้นสูงในช่วงปลายเดือนมกราคมเป็นครั้งแรกในปีนี้ โดยเริ่มไต่ระดับเกิน 100 มคก./ ลบ.ม. ในวันที่ 26 มกราคม และพุ่งสูงสุดถึง189 มคก./ ลบ.ม. ในวันที่ 28 ม.ค. โดยมีพื้นที่ซึ่งเริ่มมีรายงานค่าฝุ่นฯ ที่กระทบต่อสุขภาพในระดับที่เกิน 100 มคก./ ลบ.ม. มากถึง 7 พื้นที่ในวันเดียวกัน ก่อนที่ค่าฝุ่นฯ จะลดระดับลงมาในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ตั้งแต่วันที่ 1 เป็นต้นมา

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน ก.พ. ค่าฝุ่นฯ ในภาคเหนือไต่ระดับขึ้นอีกครั้งในช่วงกลางเดือน โดยAirVisual แสดงผลต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. ที่ค่าฝุ่นฯ เริ่มไต่ระดับที่ ตั้งแต่ 85.4 มคก./ ลบ.ม. ไปจนถึงวันที่มีค่าฝุ่นฯ สูงสุดที่ 112.6 มคก./ ลบ.ม.ในวันที่ 28 ก.พ. และยังคงค่าที่สูงไปจนถึงวันที่ 3 มีนาคม ที่ยังเกินค่ามาตรฐาน คือ 61.6 มคก/ ลบ.ม

ค่าฝุ่นฯ ในเขตภาคเหนือลดลงจากนั้นเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะขยับเพิ่มสูงอีกครั้งตั้งแต่วานนี้ (9 ก.พ.) โดยจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นจังหวัดหลักๆในการบันทึก พบค่าฝุ่น PM 2.5 ขยับสูงถึง 102.7 มคก./ ลบ.ม ในช่วงสายของวัน