เปิดเทอมวันแรกคึกคัก 'รมว.ศธ.' ย้ำทุกโรงเรียนการ์ดอย่าตก 

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 63 สำหรับบรรยากาศเปิดภาคเรียนวันแรก หลังจากที่รัฐบาลประกาศเลื่อนวันเปิดภาคเรียนออกไป จากเดิมที่จะต้องเปิดภาคเรียนในวันที่ 16 พ.ค.ของทุกปี เนื่องจากป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเป็นการเปิดเรียนทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย นักเรียนทุกคนต่างตื่นเต้นดีใจที่ได้มาโรงเรียน โดยโรงเรียนทุกแห่งปฎิบัติตามมาตรการของสาธารณสุข (สธ.) อย่างเคร่งครัด ทั้ง การให้นักเรียนสวมใส่หน้ากากอนามัย เดินเข้าโรงเรียนโดยมีการกำหนดจุดเว้นระยะห่าง มีการตรวจวัดไข้นักเรียนก่อนเข้าโรงเรียน/ห้องเรียน มีเจลแอลกอฮอร์ทุกจุดในสถานศึกษา และในห้องเรียนมีการกำหนดจุดเว้นระยะห่าง ซึ่งแต่ละโรงเรียนในสังกัดได้มีมาตรการเข้มข้นตามกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานต้นสังกัด

นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนโยธินบูรณะ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ มีนักเรียนกว่า 3,000 คน มีการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสานทั้ง ออนแอร์ ออนไซต์ และออนไลน์

โดย นายณัฏฐพล กล่าวว่า มาดูโรงเรียนโยธินบูรณะ เพราะตั้งใจจะมาดูความพร้อมของโรงเรียนขนาดใหญ่ เนื่องจากตามข้อมูลโรงเรียนขนาดใหญ่จะไม่สามารถจัดการเรียนการสอนได้เต็มรูปแบบ 100% ซึ่งโรงเรียนโยธินบูรณะ มีนักเรียนทั้งหมด 3,310 คน มีการจัดการเรียนการสอนโดยใช้วิธีสลับเลขที่เด็กในห้องเรียน คือ นักเรียนที่มีเลขคี่จะมาเรียนสัปดาห์แรก ส่วนนักเรียนเลขคู่จะเริ่มเรียนในสัปดาห์ถัดไป และบริการจัดการวิธีเรียนแบบผสมผสานด้วยการเรียนที่โรงเรียน เรียนผ่านระบบโทรทัศน์ดิจิทัล และระบบออนไลน์

“ยอมรับช่วงแรกของการเปิดภาคเรียนอาจมีความไม่สะดวกเกิดขึ้น แต่ขอให้ครูและผู้ปกครองช่วยกันประสานความร่วมมือแก้ไขไปทีละจุด โดยเฉพาะการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนมีโรงเรียนบางแห่งมีเครื่องปรับอากาศในห้องเรียนทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก รวมถึงเด็กต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา” นายณัฏฐพล กล่าว

แม้ทุกโรงเรียนจะมีการวางมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในห้องเรียนแล้ว นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า ขอฝากครูช่วยดูแลให้เด็กอย่ารวมตัวเป็นกลุ่มภายในโรงเรียนช่วงพักกลางวันมากนัก ขณะเดียวกันหากพบนักเรียนมีไข้สูงให้ประสานหน่วยงานสาธารณสุขมาประเมินสถานการณ์ทันที อย่างไรก็ตามขอให้ดำเนินการตามมาตรการคัดกรองสุขภาพอย่างเคร่งครัดและการ์ดอย่าตกอย่างเด็ดขาด

สำหรับภาพรวมการเปิดภาคเรียนวันแรกของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่พบปัญหาร้องเรียนเข้ามา นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า สพฐ.ขอขอบคุณบุคลากรทางการศึกษาไม่ว่าจะเป็นครูและผู้บริหารโรงเรียนทุกคนที่ช่วยกันทำงานอย่างหนักและเตรียมความพร้อมรับมือในเรื่องนี้จนสามารถเปิดการเรียนการสอนได้อย่างปกติ

ทั้งนี้ สพฐ.จะใช้โรงเรียนในพื้นที่ จ.อุดรธานี เป็นโมเดลในการดำเนินการหากพบเด็กติดเชื้อภายในโรงเรียน เนื่องจากโรงเรียนในพื้นที่จ.อุดรธานี วางมาตรการด้านสุขภาพอย่างดีเยี่ยม เช่น การให้นักเรียนสแกนแอพพลิเคชั้นทุกจุดในโรงเรียนไม่ว่าจะเป็นก่อนเข้าโรงเรียน ห้องเรียน หรือเลิกเรียนแล้ว เป็นต้น เพราะการทำแบบนี้จะทำให้เราทราบว่าเด็กที่ติดเชื้อโรคระบาดไปจุดไหนในโรงเรียนบ้าง เพื่อที่สาธารณสุขจังหวัดประเมินได้ว่าจะต้องปิดสถานศึกษาหรือไม่

ขณะที่โรงเรียนขนาดใหญ่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ ได้มีการกำหนดมาตรการป้องกันตามกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษา อย่างโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้มีมาตรการป้องกันโดยอนุญาตให้เฉพาะผู้ปกครองชั้น ป.1 เข้าไปส่งบุตรหลานภายในโรงเรียนได้ แต่เพียงแค่ 3 วันแรกของการเรียนเท่านั้น นอกนั้นผู้ปกครองทุกชั้นปีส่งนักเรียนได้เพียงแค่หน้าประตูโรงเรียนเท่านั้น เมื่อเข้ามาบริเวณหน้าประตูทางเข้าจะมีเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายอัตโนมัติ หากพบนักเรียนหรือบุคคลภายในโรงเรียนมีอุณหภูมิร่างกายเกิน 37 องศา จะมีการเรียกตัวเข้าห้องสถานพยาบาลเพื่อพักร่างกาย และจะมีการตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่ง หากยังมีอุณหภูมิร่างกายเกิน 37 องศา จะมีการประสานนำตัวส่งรพ.ใกล้เคียงทันที นอกจากนี้ภายในโรงเรียนจะมีจุดแอลกอฮอล์ล้างมือทั่วบริเวณโรงเรียนอีกด้วย

ส่วนการจัดการเรียนการสอนมีการแบ่งนักเรียนในห้องอย่างละครึ่งหนึ่ง โดยแบ่งจากเลขที่ของเด็ก คือเลขคู่และเลขคี่ เช่นเลขที่คี่เรียนวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และเลขคู่เรียนวันอังคาร และพฤหัสบดี ส่วนวันที่เลขที่ไหนไม่มีการเรียนการสอนจะมีการสอนออนไลน์