เสี่ยงแพร่เชื้อ! 'คณะทูต' ป่วย 'โควิด-19' ไม่กักตัวตามกำหนด

เสี่ยงแพร่เชื้อ! 'คณะทูต' ป่วย 'โควิด-19' ไม่กักตัวตามกำหนด

ศบค. เตรียมหารือ กระทรวงต่างประเทศ หลังพบ "คณะทูต" เดินทางมาไทย แต่ไม่กักตัวตามที่กำหนด ไปนอนคอนโดฯ ในกรุงเทพฯ อาจเกิดความเสี่ยงแพร่เชื้อในไทย

วันที่ 13 ก.ค.63  นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ประจำวันที่ 13 ก.ค. 63 โดยประเทศไทย พบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 3 ราย อยู่ใน State Quarantine ยอดผู้ป่วยสะสม 3,220 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 58 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายกลับบ้านแล้ว 3,090 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 72 ราย 

พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดเผยถึงความกังวลเกี่ยวกับสองเคสซึ่งเดินทางมาจากต่างประเทศ ในฐานะหนึ่งใน "11 กลุ่ม" ที่ได้รับการยกเว้นให้เดินทางเข้าไทยได้ 

เคสที่หนึ่ง คือ กรณีทหารอียิปต์ ที่เดินทางมาไทยเพื่อปฏิบัติภารกิจ และตรวจพบเชื้อโควิด-19 ซึ่งถึงแม้จะเดินทางออกจากไทยไปแล้ว แต่หลังจากสอบสวนโรค พบว่า คณะนี้ได้มีการออกจากสถานที่ที่รัฐจัดไว้ให้ไปห้างสรรพสินค้า จ.ระยอง จึงต้องมีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบอย่างเข้มข้น

พร้อมกันนี้ ยังจะต้องทบทวนข้อปฏิบัติของผู้ดูแลสถานที่กักกัน ซึ่งในกรณีนี้ คณะฯ ได้บินมาลงอู่ตะเภา ซึ่งไม่ได้มีคณะบินมาลงบ่อยนัก จึงต้องทบทวนการทำงานให้เข้มข้นกว่านี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

 

นอกจากนี้ใน เคสที่สอง ยังพบด้วยว่า กรณีการพบผู้ป่วย เป็นเด็กหญิงวัย 9 ขวบซึ่งเดินทางมาจาก "ภูมิภาคแอฟริกา" เมื่อวันที่ 10 ก.ค. และตรวจพบเชื้อซึ่งได้รายงานในแถลงข่าวเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น

หลังการสอบสวนโรคพบว่า เด็กหญิงรายดังกล่าวซึ่งเดินทางมาพร้อมกับ "ครอบครัวคณะทูต" รวม 5 คน โดย นพ.ทวีศิลป์ ได้อธิบายไทม์ไลน์ของเด็กหญิงรายดังกล่าวว่า

  • วันที่ 7 ก.ค.

เด็กหญิงพร้อมมารดาและครอบครัว ได้ตรวจหาเชื้อก่อนเดินทางที่ รพ.แห่งหนึ่งในซูดาน และ "ผลตรวจไม่พบเชื้อ"

  • วันที่ 10 ก.ค. 

เด็กหญิงพร้อมมารดาและครอบครัว ได้เดินทางมาถึงประเทศไทย เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจคัดกรอง พบว่าไม่มีอาการ ก่อนจะเก็บตัวอย่างส่งตรวจตามขั้นตอน และ พบเชื้อ

หลังจากพบเชื้อ บิดาของเด็กหญิง ได้นำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาใน รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จากนั้น "บิดา" ได้นำสมาชิกที่เหลือ ไปพำนักที่คอนโดฯ แห่งหนึ่ง ในกทม.

  • วันที่ 11 ก.ค.

ทีมแพทย์ทำการตรวจซ้ำ และยืนยันว่า "พบเชื้อ" จึงได้ส่งตัวต่อมายัง รพ.รัฐแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร

 

"รายนี้ ถือเป็นผู้ที่ในวงเล็บ (3) บุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศซึ่งมาปฏิบัติงานในประเทศไทยฯ ซึ่งกลุ่มทูตทั้งหลายที่เข้ามาในไทย เราทำแบบนี้มาตั้งแต่แรก คือ มาแล้ว เราให้เกียรติซึ่งกันและกัน ให้ท่านอยู่ในสถานทูตท่าน ถือเป็นการกักบริเวณ เป็น self quarantine หรือจะเรียกว่า organizational quarantine ก็ได้ ซึ่งก็เป็นพื้นที่ของท่าน และขอให้อยู่ตรงนั้น 14 วัน"

นพ.ทวีศิลป์ อธิบายถึงข้อกำหนด ซึ่งบุคคลที่เดินทางเข้าไทย ตาม "ข้อ 4" จะต้องเข้ารับการกักกันในที่พำนักของบุคคลดังกล่าว ภายใต้การควบคุมดูแลของหน่วยงานต้นสังกัด เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน แต่สำหรับครอบครัวนี้ กลับไปพักที่ "คอนโดมิเนียม" แห่งหนึ่ง

"นี่คือสิ่งที่เราจะต้องกำหนดมาตรการโดยละเอียดให้ครอบคลุมกว่านี้ เพราะเป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งเราไม่สามารถโทษใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่จะต้องเรียนรู้ไปร่วมกัน โดยในที่พำนักคอนโดฯ แห่งนี้ ทีมสอบสวนโรค จะต้องเข้าไปสอบสวนในพื้นที่คอนโดฯ แห่งนี้ จึงต้องนำเรียนให้ประชาชนในพื้นที่ให้ความร่วมมือ ไม่ต้องตกใจ" โฆษก ศบค. กล่าว

และเผยว่า หลังจากนี้ ทาง ศบค. จะต้องพูดคุยกันในเรื่องของข้อต่อ หน่วยงานต่างๆ ทั้ง ในส่วนของกระทรวงต่างประเทศ เกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลที่พักอาศัย การตรวจสอบข้อมูล ซึ่งจำเป็นที่จะต้องได้รับทราบ และขอความร่วมมือคณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ

"ทุกๆ ระดับ ทั้งคนไทย และต่างชาติ รวมถึงในทุกศาสนา ทุกสถานะ เราจะต้องดูแลอย่างดี ให้เกียรติซึ่งกันและกัน" โฆษก ศบค. กล่าว