มทร.ธัญบุรี เร่งหางานบัณฑิตจบใหม่ 377 อัตรา แก้ปัญหาว่างงานยุคโควิด-19
มทร.ธัญบุรี เร่งหางานให้บัณฑิตจบใหม่ แก้ปัญหาว่างงานยุคโควิด-19 จำนวน 377 อัตรา ระยะเวลา 3 เดือน ๆ ละ 9,000 บาท ด้านโครงการ 1 วิทยาลัย 1 ตำบล ที่เสนอ อว. อยู่ระหว่างการพิจารณา คาดทั้งมทร. ทั้ง 9 แห่ง จะได้รับการอนุมัติ แห่งละ 80 โครงการ
ผศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน และมีการคาดการณ์ว่าจะมีนักศึกษาจบใหม่ ปีการศึกษา 2563 ตกงาน ว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และจากการติดตามสถานการณ์นี้เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ในต่างประเทศมีปัญหาการตกงานด้วยเช่นกัน ซึ่งภาคอุตสาหกรรมการผลิต การส่งออกเปลี่ยนแปลงเยอะมาก
ส่งผลให้บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาด้านนี้ได้รับผลกระทบ แต่นักศึกษาในบางสาขาวิชาที่จบด้านอาหาร เกษตรยังมีความต้องการของตลาดแรงงาน ผลกระทบที่เกิดขึ้นมทร.ธัญบุรีได้พยายามหาทางช่วยเหลือนักศึกษา เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน โดยขณะนี้ได้รับงบประมาณจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จ้างงานผู้ว่างงานเพื่อลงพื้นที่ช่วยยกระดับชุมชม จำนวน 377 อัตรา ระยะเวลา 3 เดือน ๆ ละ 9,000 บาท
นอกจากนี้ โครงการ 1 มหาวิทยาลัย 1 ตำบล ที่เสนอไปยัง อว.นั้น ตอนนี้อยู่ในช่วงการพิจารณา ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าทั้ง 9 มทร.จะได้รับการอนุมัติ แห่งละ 80 โครงการ จะทำให้เกิดการจ้างงานคนในชุมชน รวมถึงนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่และจบการศึกษาแล้ว โครงการละ 20 คน อัตราค่าจ้าง 9,000 บาทต่อเดือน รวมถึงยังได้กำหนดให้โครงการวิจัยต่างๆ ของมหาวิทยาลัย การจ้างผู้ช่วยวิจัยกำหนดให้จ้างบัณฑิตของมหาวิทยาลัย อัตราค่าจ้างเดือนละ 9,000 -15,000 บาทขึ้นอยู่กับขนาดของงานวิจัยและงบประมาณของงานวิจัยนั้นๆ
“อย่างไรก็ตาม ปัญหาโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทำให้มีนักศึกษาที่จบปริญญาตรี เรียนต่อในระดับปริญญาโทเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ในส่วนนักศึกษาที่จบการศึกษาและยังไม่มีงานทำมหาวิทยาลัยได้จัดโครงการอบรมระยะสั้น เพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้กับลูกศิษย์ในการที่จะเป็นผู้ประกอบการ รวมถึงยังมีการให้ทุกคณะจัดทำหลักสูตร Re Skill และ Up Skill ให้นักศึกษาที่ยังไม่มีงานทำ เพื่อเพิ่มพูนความรู้หลาย ๆ ด้าน ทั้งนี้ คาดว่าหากสถานการณ์กลับเป็นปกติจะทำให้เด็กของมหาวิทยาลัยไปสมัครงานจะมีโอกาสทำงานทำเพิ่มขึ้น”